แกะรอยฆาตกร ตำรวจสืบจากป้ายราคา จนเจอ ผู้ต้องสงสัย ฆ่าหั่นศพ : พะงัน

กรณีตำรวจ สภ.เกาะพะงัน รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 12.00 น. ของวันที่ 3 ส.ค.2566 ว่า

มีคนพบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์เพศชาย บริเวณโรงเผาขยะเทศบาลเกาะพะงัน ม.4 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี

โดยพยานให้ข้อมูลว่า

รถขยะตระเวนเก็บขยะในเขตเทศบาล มาเทกองรวมไว้เพื่อให้พนักงานคัดแยกขยะ และเผาทำลาย

ขณะพนักงานทำการคัดแยกขยะ พบชิ้นส่วนมนุษย์บริเวณสะโพกและอวัยวะเพศชาย

ต่อมาวันที่ 4 ส.ค.66 ก็พบชิ้นส่วนมนุษย์ ท่อนขาขวา เป็นชิ้นที่ 2 บริเวณเดียวกัน

หลังรับแจ้งเหตุ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 , พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัคร้กษม รอง ผบช.ภ.8 , พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 และ พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี

สั่งการชุดสืบสวนหาพยานหลักฐานในจุดที่พบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะถุงหลายใบที่บรรจุชิ้นส่วน

หลักฐานบางส่วนนำไปสู่การคลี่คลายคดีในบางประเด็น

ถุงบรรจุชิ้นส่วนมีป้ายราคาติดอยู่ ตำรวจเกาะรอยสืบหาพอกัดร้านค้าของขายถุงนี้

จนเจอ

ทีมสืบ จึงเช็กกล้องวงจรปิดจากร้านค้า พบว่า

มีชายชาวต่างชาติคนหนึ่งมาซื้อถุงพลาสติก มีดและถุงมือ ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไป

ตำรวจไล่ต่อ

เช็กป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ พบว่าเป็นรถจักรยานยนต์เช่า ใช้งานบนเกาะพะงัน

สาวตามเส้นทาง ก็ได้ชื่อสกุล ของผู้เช่า เขาชื่อว่า

“นายแดเนียล” อายุ 29 ปี ชาวสเปน ซึ่งเป็นคนเดียวกับชายต่างชาติที่ไปร้านชำตามกล้องวงจรปิด

หลักฐานค่อนข้างชัด นายแดเนียล คนนี้แหละ น่าจะรู้เห็นคดีฆ่าหั่นศพมนุษย์ครั้งนี้แน่นอน

แต่ แดเนียล อยู่ไหน ?

ตำรวจยังไม่ทันได้เสาะหาตัว แดเนียล ก็ปรากฎตัว

แต่การปรากฎตัวของเขามาในรูปแบบ เพื่อนที่แสนดี มาแจ้งความตามหาเพื่อนที่หายตัวไป

ช่วงเช้าของวันที่ 4 ส.ค.66 นายแดเนียล มาที่ สภ.เกาะพะงัน แจ้งว่า เพื่อนชายคือ “นายเอ็ดวิน” อายุ 44 ปี ชาวโคลอมเบีย หายตัวไป

ตำรวจจึงซักถามข้อมูลอย่างละเอียด

ต่อไปนี้คือข้อมูลที่ นายแดเนียล เล่าให้ตำรวจฟัง

นายแดเนียล นัดกับ นายเอ็ดวิน เดินทางมาเจอที่เกาะพะงัน

โดยนายเอ็ดวิน เป็นคนจองห้องพัก ระหว่างวันที่ 31 ก.ค. – 3 ส.ค.2566

ซึ่ง นายแดเนียล เดินทางมาถึงโรงแรมและเข้าพักก่อนตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.

ส่วนนายเอ็ดวิน จะตามมาวันที่ 2 ส.ค. 66

เป็นไปตามนัด นายเอ็ดวิน มาพบ นายแดเนียล วันที่ 2 ขึ้นเรือที่ท่าเรือเกาะพะงัน เวลาประมาณ 15.00 น.

จากนั้นทั้งคู่ก็พากันไปรับประทานอาหารและเที่ยวต่อ บริเวณหาดริ้น ใกล้กับโรงแรมที่เช่าพักไว้

แต่ นายแดเนียล บอกตำรวจว่า หลังเที่ยงคืนของวันที่ 2 ส.ค.66 นายเอ็ดวินหายไป ไม่รู้ว่าไปไหน ไม่สามารถติดต่อได้

ด้านการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ พบว่า

จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า

นายเอ็ดวิน เป็นแพทย์ศัลยกรรมฝีมือดี ในประเทศโคลอมเบีย

ส่วน นายแดเนียล เป็นเซฟชาวสเปน

โดยนายแดเนียล เข้าพักโรงแรมที่นายเอ็ดวิน เป็นผู้จองก่อน ตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.2566

และ นายแดเนียล ยังไปเปิดโรงแรม โดยใช้ชื่อตัวเองไว้อีกแห่งหนึ่งใกล้หาดสลัด บนเกาะพะงัน ในวันที่ 1 ส.ค.2566

ในวันเดียวกันนั้นช่วงเย็น นายแดเนียล ซื้อมีดสับขนาด 8 นิ้ว , ถุงมือยาง , ฟองน้ำ , ฝอยสแตนเลส , น้ำยาล้างทำความสะอาด , ถุงขยะขนาดใหญ่ จากร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง

หลังจากนั้นวันที่ 2 ส.ค.2566 นายแดเนียล ได้พา นายเอ็ดวิน มายังที่พัก ที่ตกลงเข้าพักด้วยกัน

โดยขณะที่ นายเอ็ดวิน เข้าให้ปากคำ ตำรวจได้ไปตรวจสอบที่โรงแรมที่ทั้งคู่เช่าพักด้วยกัน พบว่า ตู้เย็น ห้องน้ำ ซิงส์ล้างจาน ภายในห้อง ถูกทำความสะอาด

ในท่อน้ำทิ้งมีคราบเลือด เนื้อเยื่อ คราบไขมัน เส้นขน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์

ตำรวจจึงคุมตัว นายแดเนียล ในฐานะ ผู้ต้องสงสัย

ตำรวจสืบต่อพบว่า นอกจากนี้การเข้ามาในราชอาณาจักรของ นายแดเนียล มีพิรุธต้องสงสัย เข้าใช้ห้องพักที่นายเอ็ดวิน จองไว้ และอยู่กับนายเอ็ดวิน จนกระทั่งหายไป

อีกทั้งห้องพักโรงแรมที่ไปเปิดเพิ่ม และ ห้องพักที่พานายเอ็ดวินเข้าไป ก็พบร่องรอยการชำแหละชิ้นส่วนของสิ่งมีชีวิต

และนายแดเนียลไม่แจ้งเปลี่ยนสถานที่เข้าพักในราชอาณาจักร ปกปิดความจริง ซึ่งมีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม พนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน จึงขอเพิกถอนการอยู่ในราชอาณาจักร ให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมาย