วันที่ 11 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน บ้านเสม็ด ต.สองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ว่า กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะไม่สามารถทำธุรกรรมใด ๆ ทางราชการได้ เพราะมีคนเอาหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลักไปใช้ จากการตรวจสอบ พบนายวิโรจน์ ทรงศรี อายุ 51 ปี อยู่เลขที่ 41 หมู่ 4 ต.สองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ โดยนายวิโรจน์ เล่าว่า เมื่อปี 2535 ตอนอายุ 20 ปี ได้บวชเป็นพระอยู่ที่ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์
ปี 2538 ตอนนั้นบวชมาได้แล้ว 3 ปี กระเป๋าย่ามของตน ถูกคนป่วยจิตเวช ขโมยไปแล้วเอาไปเผา ไปพบเห็นเพียงซากบัตรประจำตัวประชาชน และเอกสารบางส่วนที่ถูกเผา แต่ไม่พบใบสุทธิของพระ ครั้งนั้นตนไม่ได้สนใจ อะไร เพราะอยู่วัดในพื้นที่ไม่จำเป็นต้องใช้ใบสุทธิไปแสดงตน
ปี 2542 ตนได้สึกออกจากการเป็นพระ แล้วไปทำงานอยู่ที่จังหวัดระยอง ชีวิตก็เป็นไปตามปกติ เมื่อบัตรหมดอายุก็ไปทำบัตรใหม่ได้ จนกระทั่งเมื่อปี 2561 ได้เข้าไปพบหมอที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน (รพ.สต.) ที่จังหวัดระยอง
เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการเช็คสิทธิ์รักษาพยาบาล จนท.ได้แจ้งมาว่า เลขบัตรประจำตัวประชาชนของตน ไปตรงกับพระที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตอนนั้นงงมาก แต่หมอก็รักษาให้ ไม่ได้สนใจอะไร เพราะตัวเองมีบัตรประจำตัวประชาชนของแท้อยู่ในมือ
หลังจากมีการระบาดของโรคโควิด 19 ได้กลับมาอยู่บ้านที่ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ใช้ชีวิตไปตามปกติเช่นเดิม เมื่อประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้เข้าไปทำธุรกรรมการเงินที่ธนาคาร ใน อ.กระสัง ปรากฏว่า ไม่สามารถทำได้ เพราะเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขนี้ มีพระรูปหนึ่ง ใน อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใช้แล้ว
นายวิโรจน์ เล่าด้วยว่า ล่าสุด อสม.ในหมู่บ้าน ได้เอาหลักฐานใบรับรองการฉีดวัคซีนมาให้ถึงบ้าน พบว่าตนได้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 แล้ว ทั้งที่ตนฉีดวัคซีนมาแล้วแค่ 2 เข็ม
ตอนนี้เท่ากับตนซึ่งเป็นคนไทย 100 เปอร์เซ็นต์ กลายมาเป็นคนเถื่อน เพราะมีคนมาสวมเอาบัตรประชาชนของตนไปใช้โดยที่ตนไม่รู้เรือง ส่วนตัวคาดว่าน่าจะมีคนเอาใบสุทธิ ของตนที่หายไป แล้วเอาคนอื่นมาสวมสิทธิเป็นพระแทน แล้วไปทำเรื่องขอทำบัตรประชาชนใหม่ และน่าจะทำกันเป็นกระบวนการ
คลิปอีจันแนะนำ
ขนใจจากปลายด้ามขวาน ไปห่มดอยให้น้องคลายหนาว @แม่แตง