“บูรพา 491” ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลวงคนไทย ไปหลอกคนไทย

ตำรวจ PCT บุกสระแก้ว เปิดปฏิบัติการบูรพา 491 ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกคนไทยข้ามแดน ให้ทำงานหลอกคนอีกทอด เหยื่อเล่า เหมือนนรกบนดิน

เปิดปฏิบัติการบูรพา 491 ทลาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่งคนไทยข้ามแดน

ผู้เสียหายที่ถูกหลอกไป บอก ไม่อยากหลอกคนไทยด้วยกัน

วันนี้ (3 ก.พ.65) เวลาประมาณ 10.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง บุกจับกุมเครือข่าย คอลเซ็นเตอร์ รายใหญ่ พร้อมออกหมายจับอีกยกแก๊ง 17 ราย และเตรียมขยายผลออกหมายจับเจ้าของบัญชีม้าอีกกว่า 10 ราย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนทราบว่า เครือข่าย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ รายนี้มี 2 สามี – ภรรยา อยู่ฝั่งประเทศไทย ทำหน้าที่ประสานงานกับชาวจีนหัวหน้าเครือข่ายและเป็นธุระจัดหาคนไทย ไปทำงานในประเทศกัมพูชา ผ่านเว็บไซต์จัดหางานประเทศเพื่อนบ้าน โดยหลอกว่ามีรายได้ดี งานสบาย เมื่อมีคนหลงเชื่อจะขับรถไปรับถึงบ้านและนำพาข้ามชายแดนไปยังประเทศกัมพูชา ชุดสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ 2 สามีภรรยารายนี้

ปฏิบัติการบูรพา 491 ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงเริ่มขึ้น!

เพื่อตัดวงจรการส่งคนไทยข้ามแดนไปกัมพูชา ครั้งนี้ ตำรวจสามารถจับกุม 2 สามี-ภรรยาได้ ทราบชื่อ คือ นายณฐกร อายุ 28 ปี และ น.ส.อ้อยใจ อายุ 34 ปี โดยทั้ง 2 คน ถูกแจ้งข้อหาหนัก 5 ข้อหา คือ “ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่นฯ , หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นฯ , เพื่อจะเอาคนลงเป็นทาส หรือให้มีฐานะคล้ายทาส หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร หรือหน่วงเหนี่ยวซึ่งบุคคลหนึ่งบุคคลใด ,เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ โดยหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใด มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ”

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับว่า มีนายปอ หนวดงาม คนไทยเป็นขาใหญ่ควบคุมคอลเซ็นเตอร์ชาวไทยอยู่ฝั่งประเทศกัมพูชา

จากนั้น ตำรวจ PCT ได้เข้าตรวจค้นเซฟเฮ้าส์ลับที่ใช้พักคนไทยก่อนข้ามชายแดน 2 จุด ใน ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว พบพยานหลักฐาน เช่น สมุดบัญชีธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชี น.ส.ชุติมา กับ นายธนากร หนังสือผ่านแดน (Border Pass) ของผู้ต้องหา สมุดจดบันทึกรายการเข้าออกและค่าใช้จ่าย จำนวน 1 เล่ม

หลังการตรวจค้นเซฟเฮ้าส์ได้นำผู้ต้องหาไปชี้จุด ที่พาคนไทยข้ามชายแดนไปยังประเทศกัมพูชา บริเวณทุ่งนาด้านหลังปราสาทสด๊กก๊อกธม ซึ่ง รอง ผบ.ตร. พร้อมชุดปฏิบัติการ ต้องใช้การเดินเท้าไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร ถึงแนวชายแดน โดยผู้ต้องหาให้การว่า เมื่อข้ามไปถึงประเทศกัมพูชาแล้ว จะมีคนฝั่งกัมพูชานำทางต่อ เพราะว่าบริเวณแนวชายแดนมีกับระเบิดของทหารกัมพูชาอยู่ หากไม่ชำนาญเส้นทางจะทำให้ถูกกับระเบิดได้

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 เผยว่า ขณะนำชี้ที่เกิดเหตุมีผู้เสียหายรายหนึ่ง อ้างว่าเคยเป็นเหยื่อใน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลบหนีกลับมาประเทศไทยได้ เข้าพบ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังจากส่งคนไทยข้ามแดนแล้วก็จะมีคนมารับต่อ เมื่อไปถึงฐานปฏิบัติการของ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จากนั้นจะถูกจับเป็นทาส ให้ทำงานหลอกคนไทยให้โอนเงินให้ โดยบังคับให้ทำงานวันละ 15 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด ถูกกักขัง หากขัดขืนไม่ทำงานก็จะถูกทารุณต่างๆนาๆ ทั้งกักขังและทำร้ายร่างกาย ในบางรายถูกขายต่อให้กับแก๊งอื่นๆ สภาพเหมือนตกนรก แต่บางรายก็เต็มใจในการหลอกคนไทยเพราะจะได้เงินส่วนแบ่งดี แต่ผู้เสียหาย สารภาพว่า ไม่ได้ที่จะหลอกคนไทยด้วยกัน จนมีผู้ถูกหลอกบางคนโทรกลับมาขอเงินคืน และถึงกับจะฆ่าตัวตายก้มี

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ระบาดหนักมากและมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หลากหลายรูปแบบ เช่น หลอกว่าเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด โดยปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลอกว่าได้รับรางวัล หลอกให้หลงรักและชวนลงทุน หลอกให้กู้เงินออนไลน์ และมีการพัฒนาไปถึงการ หลอกให้โอนเงินเข้าเว็บเทรดเหรียญ คริปโตเคอเรนซี่ ซึ่งเป็นเว็บเทรดผี โดยโอนเงินเข้าไปในรูปแบบสกุลเงินดิจิทัล( Usdt ) แล้วไม่สามารถถอนเหรียญได้ จึงฝากเตือนพี่น้องประชาชน อย่าตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อง่ายๆ หากพบเบาะแสสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ ศูนย์ PCT 081-8663000 เวลาราชการ หรือ สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ www.pct.police.go.th ตลอด 24 ชม.

คลิปอีจันแนะนำ
DES ลุยปราบอาชญากรรมออนไลน์ 2022