สืบนครบาล รวบ ผิงผิง สาวสองสุดอันตราย หลอกผู้ชาย ไป รูดทรัพย์

ผิงผิง สาวสองสุดอันตราย หลอกผู้ชายไปเสียว แต่กลับโดนมอมยารูดทรัพย์ ตำรวจขยายผล พบเป็นมือขวาบอส แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชาวไต้หวัน มาหลอกคนเพราะเสพติดการทำให้เหยื่อล้มฟุบ

เจอแสบ ต้องแสบกว่า! สืบนครบาล รวบตัว ผิงผิง สาวสองสุดแสบ หลอกผู้ชายว่าจะเสียว แต่กลับพาไปรูดทรัพย์ มอมยาจนสลบ ใครดื้อยาโดนกระทืบจนกว่าจะหลับ ตำรวจขยายผล พบเป็นมือขวาบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หารายได้เสริมจากการมอมยาคน อ้าง เสพติดการทำให้คนหลับ เพราะคิดว่าตัวเองมีพลังวิเศษ

เรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยมาในวันที่ 12 ก.ย. 66 นายผิงผิง ชื่อจริง นายอภิชาติ สาวสองสุดแสบ หลอกเหยื่อด้วยการนัดเดทผ่านแอพพลิเคชั่นหาคู่สาวสอง โดยขึ้นข้อความว่า “สาวสอง ใครร้อนเงินทักมา” ล่อลวงชายหนุ่มหลายรายมาพบเจอ โดยใช้เงินหลอกให้เหยื่อตายใจก่อน แล้วค่อยวางยาในแก้วเครื่องดื่ม เมื่อเหยื่อหลงเสน่ห์และดื่มเครื่องดื่มเข้าไป ก็จะหลับไป หากใครไม่หลับ นายผิงผิงก็จะใช้กำลังทำร้าย เพื่อให้เหยื่อสลบไปให้ได้ จากนั้นนายผิงผิงก็จะรูดทรัพย์ ลักรถของเหยื่อ ทำมานานจนเสพติดการก่อเหตุ โดยบอกว่า “เห็นคนล้มฟุบแล้วมีความสุข คิดว่ามีพลังวิเศษ” ต้องทำเดือนละ 2-3 ครั้ง

จุดเริ่มต้นการก่อเหตุเกิดจาก ตนเองเคยถูกผู้ชายพามามีเพศสัมพันธ์ด้วย แล้วโดนชายคนนั้นขโมยทรัพย์สินไประหว่างที่หลับ ตอนนั้นถูกขโมยเงินไปกว่า 80,000 บาท จึงแค้นมาก วางแผนล่อลวงชายคนนั้นมา และได้ลองมอมยาแบบนี้เป็นครั้งแรก โดยตอนนั้นใส่ยาไปทั้งหมด 10 เม็ด จนล้มพับไป จากนั้นก็ขโมยของขโมยรถของชายคนนั้น เมื่อเริ่มทำครั้งแรกก็รู้สึกสนุก สะใจ จึงติดเป็นนิสัยและก่อเหตุต่อมาเรื่อยๆ โดยยาที่ได้มานั้น ตนเองไปหาหมอแล้วจะบอกว่า ต้องการยาตัวนี้ ถ้าหมอคนไหนไม่ยอมให้ ก็จะแสดงละครบอกหมอว่า ถ้าไม่ให้จะไปฆ่าตัวตาย หมอก็จะยอมให้ โดยให้ทีละ 20-30 แผง และที่เลือกวางยาในเบียร์แบบนี้เพราะว่า เหยื่อจะดูออกยาก ส่วนรถที่ตนเองขโมยมา จะนำไปขายให้กับขบวนการส่งรถออกนอกประเทศ โดยจะเก็บรถที่ขโมยมาไว้กับตัวเองไม่เกิน 2 ชั่วโมง ส่วนบัตรประชาชนที่ถูกตรวจค้นพบหลายๆใบนั้น ตนเองได้มาจากเหยื่อบ้าง และได้จากพวกเปิดบัญชีบ้าง เลยนำมาใช้ในการทำธุรกรรมต่างๆแทนชื่อของตนเองเพื่อปกปิดตัวเอง

การจับกุมครั้งนี้ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สืบนครบาล และเหล่านักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 112 ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว ติดตามไล่ล่าเธอมาเกือบ 2 เดือน จนสุดท้ายไล่กวดถึงริมชายแดน กระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ขณะกำลังพยายามจะหลบหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้าน หลังจับกุมตัว ได้นำส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีตามกฎหมาย

โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” พร้อมตรวจยึดของกลาง 4 รายการ

1.บัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 6 ใบ (เป็นของบุคคลอื่น) รับว่าเป็นของบัญชีม้า

2.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง (ของตนเอง 2 เครื่อง , ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 4 เครื่อง)

3.เงินสด จำนวน 25,000 บาท

4.ยาที่ใช้มอมเหยื่อจำนวน 3 แผง

ในชั้นจับกุม นายผิงผิง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยกล่าวว่า “ตนเองเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ใน ปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยทำมาเป็นเวลากว่า 3 ปี หลอกคนไทยได้ยอดรวมประมาณล้านกว่าบาท ซึ่งตนได้ค่าคอมมิชชั่นมา 400,000 บาท แต่ได้ใช้ไปกับการพนันหมดแล้ว ในปัจจุบันตนได้เป็นมือขวาของบอสชาวไต้หวันชื่อว่า เสี่ยว เฟ่ย เชียน ซึ่งเป็นเจ้าของคอลเซ็นเตอร์ 3 ตึกในปอยเปต ล่าสุดได้ทำหน้าที่เป็น HR และคอยจัดหาบัญชีม้าให้กับบอสชาวจีน โดยจะเข้าๆออกๆกัมพูชาและประเทศไทยเป็นประจำเพราะตนเองเสพติดภาพการล้มพับของเหยื่อ

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ โดยจากการขยายผลการจับกุมครั้งนี้ พบพยานหลักฐาน รถจักรยานยนต์ ซึ่งต้องสงสัยว่าได้จากการก่อเหตุ กว่า 13 คัน และพบข้อมูลเหยื่อและผู้ที่กำลังจะตกเป็นเหยื่ออีกไม่ต่ำกว่า 10 ราย จึงขอประชาสัมพันธ์ถึงผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อคนร้ายรายนี้ ให้แจ้งมาที่เฟสบุ๊คเพจ สืบสวนนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่ประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง เราจะปกปิดข้อมูลของคุณเป็นความลับ และขอฝากเตือนไปยังเหล่าผู้ปกครองให้หมั่นเฝ้าระวังบุตรหลานที่ชื่นชอบการเล่นแอ็พพลิเคชั่นหาคู่ลักษณะนี้ ให้หลีกเลี่ยง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของท่าน ในส่วนของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตอนนี้เราได้ข้อมูลสำคัญของขบวนการมามากพอสมควร ซึ่งเราจะมีการขยายผลต่อไปจนถึงที่สุด แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที

ใครที่เคยตกเป็นเหยื่อในลักษณะนี้ ติดต่อแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมกันได้เลยนะครับ

คลิปอีจันแนะนำ
พ่อจ๋าช่วยหนูด้วย ตาเลี้ยงข่มขืนหนู