รวบอินฟลูชื่อดัง หลอกลงทุนเหยื่อไม่ต่ำกว่า 40 ราย เสียหายกว่า 10 ล้าน

รวบแล้ว! ใบเฟิร์น อืนฟูลตุ๋นเหยื่อหลอกลงทุน “ร้านตัดผมและร้านทำเล็บ” มีเหยื่อหลงเชื่อร่วมลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ราย ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ก่อนหายเข้ากลีบเมฆ

ไม่รอด! สืบนครบาลรวบ ใบเฟิร์น เน็ตไอดอลชื่อดัง หลอกลงทุนร้านทำเล็บกลางห้าง

หลายคนที่ติดตามวงการเน็ตไอดอล อินฟลู คงจะเคยได้ได้ยินชื่อสาวใบเฟิร์น เธอเป็นสาวสวย เน็ตไอดอลชื่อดัง ถ่ายแบบเป็นอินฟลูเอนเซอร์ โปรไฟล์ IG ของเธอจึงมีผู้ติดตามกว่า 120,000 คน  โพสภาพคู่กับรถหรูและดาราผู้มีชื่อเสียงอีกหลายๆคน สร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนตุ๋นเหยื่อหลอกลงทุน “ร้านตัดผมและร้านทำเล็บ” โดยมีเหยื่อหลงเชื่อร่วมลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ราย ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ก่อนหายเข้ากลีบเมฆ

ผู้เสียหายและทีมงานทนายความชื่อดังประสานขอความช่วยเหลือกับ น .1 พล.ต.ท.ธิติ  แสงสว่าง ผบช.น. โดย  เกรงว่าจะมีประชาชนเดือดร้อนเพิ่ม   จึงสั่งการให้สืบนครบาลเร่งรัดสืบสวนหาตัว  จนกระทั่งทราบเบาะแสว่าหนีมาเข้าถ้ำเสือนครบาล อยู่ใน กรุงเทพ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หัวหน้าชุด PCT5 ส่งชุด PCT5 และ สืบนครบาล ตระเวนปลอมตัวเป็นเอเจนซี่แฝงตัวตามคอนโดหรูย่านทองหล่อ กระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ โดยเธอเผยกับชุดจับกุมว่า “ตอนนี้ตนพยายามหา ซื้อของแบบซื้อมาขายไป หวังว่าถ้ามีเงินก็จะนำไปทยอยคืนให้กับผู้เสียหาย”  

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ (8  พ.ย.66) ที่ผ่านมาตำรวจเข้าจับกุม น.ส.มณฑิรา หรือ“ใบเฟริน” อายุ 31 ปี  ผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 หมายจับ

1.หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ จ.997/2566 ลงวันที่ 5 ต.ค. 66 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” (สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่) 

2.หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ จ.1073/2566 ลงวันที่ 26 ต.ค. 66 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” (สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่) 

กลางห้างดังโดยข้อกล่าวหา ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” 

 ซึ่งทางตำรวจชุด PCT5 และชุดสืบนครบาล ติดตาม “เน็ตไอดอลดัง อักษรย่อ บ.” หลังเธอได้ตระเวนก่อเหตุ หลอกลวงให้ลงทุน “ร้านตัดผมและร้านทำเล็บ” โดยมีเหยื่อหลงเชื่อร่วมลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ราย ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

ด้วยเธอเป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างหน้าตาดีและยังเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ออกรายการทีวีต่างๆ ถ่ายแบบ เป็นอินฟลูเอนเซอร์ โปรไฟล์ IG ของเธอจึงมีผู้ติดตามกว่า 120,000 คน และในเฟสบุ๊คของเธอยังมีการโพสภาพคู่กับรถหรูและดาราผู้มีเชื่อเสียงอีกหลายๆคน สร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้มาสอดส่องโปรไฟล์เธอเป็นอย่างดี  

กระทั่งช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมาเธอได้เริ่มโพสเชิญชวนให้ร่วมลงทุนเป็นหุ้นส่วนการทำร้านตัดผมและทำเล็บ โดยเสนอเป็นแพ็กเกจต่างๆ ยอดปันผลขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ลงทุน และเมื่อถึงกำหนดก็จะได้เงินปันผล ซึ่งเมื่อเหยื่อหลงเชื่อและตัดสินใจโอนเงินไปร่วมลงทุนกับเธอแล้ว เธอก็ไม่ค่อยตอบข้อความ อ้างว่างานเยอะ ติดงานต่างๆ ส่วนสัญญาที่พิมพ์มาให้เซ็นก็ผิดๆ ถูกๆ หลายครั้ง และเมื่อถึงกำหนดจ่ายเงินปันผลเธอก็จะบ่ายเบี่ยงไม่จ่ายเงิน จนถึงช่วงปลายเดือน มิ.ย. 66

เธออ้างกับเหยื่อว่า บริษัทถูกยักยอกเงิน ทำให้ไม่มีเงินมาคืนให้กับผู้ร่วมลงทุน และหนีหายเข้ากลีบเมฆไป กระทั่งบรรดาเหยื่อที่ร่วมลงทุนกับเธอได้ทยอยเข้าแจ้งความ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับ  จำนวน  2 หมายจับ ซึ่งล่าสุดเหยื่อได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่าเจ้าตัวได้หลบหนีมากบดาลในพื้นที่ จ.กรุงเทพฯ เรียกได้ว่าหนีมาเข้าถ้ำเสือนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หัวหน้าชุด PCT5 ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัว โดยมีเพียงเบาะแสว่าเธอ “กินหรูอยู่สบายละแวกทองหล่อ” ชุดสืบสวนตระเวนตรวจสอบแต่ยังคงไร้ร่องรอย กระทั่ง พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ได้เบาะแสจากสายลับว่าเธอควงหนุ่มอยู่ตามห้างดังในพื้นที่ จ.กรุงเทพ จึงตระเวนกระจายกำลังตามห้างดังทั่วกรุงเทพกว่า 5 วัน

กระทั่งวันที่ 8 พ.ย. 66 ชุดสืบสวนที่แฝงตัวอยู่ตามห้างได้พบตัวขณะกำลังเดินหาซื้อชุดว่ายน้ำกับหนุ่มชาวต่างชาติ จึงเข้าแสดงตัวและจับกุมตัวเธอได้ โดยจับกุมตัวได้ที่ ห้างยูเนียนมอลล์ แขวงจอมพล เขตจตุจักร จ.กรุงเทพฯ 

 ในชั้นจับกุมใบเฟิร์น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยภาคเหนือ เปิดร้านทำเล็บอยู่ จ.เชียงใหม่

ล่าสุดเข้ากรุงเทพมาได้เป็นเวลา 3 สัปดาห์แล้วแต่ไม่ได้เป็นการหลบหนี ในทางคดีตนเองเปิดร้านทำปมและเล็บอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ เห็นว่ามีรายได้ดี จึงได้มาร่วมลงทุนร่วมกัน ร้านกู๊ดคัด โดยร่วมลงทุนรายละ 50,000-1,000,000 บาท  

และเปิดรับลงทุนร่วมรับจำนำของ จากนั้นนำไปขายเพื่อนำเงินมาแบ่งกัน  แต่ช่วงหลังกำไรน้อยมาก และซื้อสินค้ามาขายไม่ค่อยได้  ทำไห้ไม่ได้จ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้ร่วมลงทุน  ส่วนร้านทำผมเนื่องจากหาช่างไม่ได้ และลูกค้าน้อย ทำให้ไม่มีเงินจ่ายไห้กับผู้ร่วมลงทุน ตอนนี้ตนพยายามหา ซื้อของแบบซื้อมาขายไป หวังว่าถ้ามีเงินก็จะนำไปทยอยคืนให้กับผู้เสีย” หลังจับกุมตัว ได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย 

ทางด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา และจะมีการขยายผลการจับกุมโดยละเอียด ซึ่งจากข้อมูลที่ได้วิธีการที่ผู้ต้องหารายนี้ใช้หลอกลวง นั้นเริ่มจากการสร้างโปรไฟล์ให้มีความน่าเชื่อถือ ถ่ายภาพคู่รถหรู หรือดาราผู้มีชื่อเสียงคนอื่นๆ จากนั้นการหลอกลวงจึงทำได้ไม่ยากนัก จึงขอเตือนไปยังพี่น้องประชาชนยุคใหม่ว่า การร่วมลงทุนในโลกออนไลน์นั้นมีความเสี่ยง เพราะในปัจจุบันเหล่ามิจฉาชีพจะแฝงตัวอยู่ในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก การตรวจสอบความน่าเชื่อถือจากโปรไฟล์ในโลกออนไลน์นั้นยังไม่เพียงพอ จะต้องศึกษาหรือปรึกษาผู้มีความรู้ทางด้านการลงทุนให้ดีก่อน เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อ และขอเตือนไปยังเหล่ามิจฉาชีพทางออนไลน์ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการระดมปราบปรามผู้กระทำผิดทางออนไลน์อยู่ตลอด ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ฉะนั้นผู้ที่ยังทำหรือคิดจะทำขอเตือนว่า มันไม่คุ้มได้คุ้มเสีย เมื่อได้ลงมือก่อเหตุแล้วและมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้วยังไงก็ต้องถูกจับกุม เพียงแต่จะช้าหรือเร็วแค่นั้นเอง” 

คลิปอีจันแนะนำ
ช็อก!!! สุขุมวิท ถนนทรุดตัว รถบรรทุกเฉียดตาย