จับได้เกือบทุกวัน! บัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลวงเหยื่อดูดเงิน

สืบนครบาล ตามรวบ 2 สาวบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลวงเหยื่อโหลดแอปฯ ดูดเงินออกจากบัญชี

บัญชีม้า อย่าคิดว่าจะรอด! ตำรวจสืบทุกวัน ตามจับทุกวัน

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้รับรายงานจากชุดสืบสวน กก.สส.2 บก.สส.บช.น และนักเรียนหลักสูตรการสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 110  ร่วมกันจับ น.ส. ศุภลักษณ์ อายุ 24 ปี ชาวลพบุรี ผู้ต้องหาบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดจันทบุรี ที่ 195/2566 ลง 24 ก.ค. 2566 และ น.ส. เอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ชาวสระบุรี ผู้ต้องหาบุคคลตามหมายจับศาลเยาวชนเเละครอบครัวกลาง ที่ 79/2566 ลงวันที่ 25 ก.ค. 2566 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

โดยพฤติการณ์ของ 2 สาวบัญชีม้า คือ มีผู้เสียหาย ได้รับสายโทรศัพท์จากหมายเลข 081-341-1xxx (ทราบภายหลังว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์) บอกว่าผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องผิดกฎหมาย ถูกแอบอ้าง และการฟอกเงิน และให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนในแอปพลิเคชันไลน์ เพื่อแจ้งความ จากนั้นผู้เสียหายทำการเพิ่มเพื่อนแล้วปรากฎผู้ใช้บัญชีไลน์ชื่อ “สภ.เมืองเชียงราย” บอกให้ผู้เสียหายโอนเงินที่มีอยู่ทั้งหมดไปให้ตรวจสอบแล้วจะคืนให้

ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินไปจากบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ของผู้เสียหาย ไปยังบัญชีของคนร้าย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เลขที่ 8013932xxx ชื่อบัญชีของผู้ต้องหา จำนวน 4 ครั้ง จากนั้นคนร้ายได้หลอกให้ผู้เสียหายโหลดแอปพลิเคชันที่สามารถควบคุมโทรศัพท์ทางไกล และให้ผู้เสียหายบอกเลขรหัสที่ปรากฏในแอปพลิเคชัน จากนั้นคนร้ายควบคุมเครื่องโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย และโอนเงินจากบัญชีเดิมของผู้เสียหายไปยังบัญชีเดิมของคนร้าย รวมการโอนเงินทั้งหมด 5 ครั้ง วันที่ 4 ส.ค. 2565 เป็นเงินทั้งสิ้น 109,355 บาท จากนั้นไม่สามารถติดต่อได้ และไม่ได้รับเงินคืนตามที่คนร้ายกล่าวอ้าง จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้ายให้ได้รับโทษตามกฎหมาย

จากการซักถาม น.ส. ศุภลักษณ์ ผู้ต้องหาที่ 1 รับว่าบัญชีดังกล่าวที่ผู้เสียหายโอนเงินมาให้นั้นเป็นบัญชีของตนเองจริง ซึ่งบัญชีดังกล่าวตนเองได้เอาไปให้ น.ส.เอ ผู้ต้องหาที่ 2 ใช้โดยที่ตนเองไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร และไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการฉ้อโกงเงิน หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์แต่อย่างใด

ด้าน น.ส.เอ รับว่าบัญชีดังกล่าวที่ผู้เสียหายโอนเงินมาให้นั้นเป็นบัญชีของตนเองจริง ซึ่งบัญชีดังกล่าวตนเองได้เอาไปให้เพื่อนใช้ โดยที่ตนเองไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร และไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการฉ้อโกงเงิน หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์แต่อย่างใด จึงนำตัวผู้ต้องหาที่ 1  ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี  และนำตัวผู้ต้องหาที่ 2 สน.บางนา ดำเนินคดีตามกฎหมาย

คลิปอีจันแนะนำ
สงสารจับใจ โดนหลอกหมดตัว เดินเท้ากลับศรีสะเกษ