ยังเป็นประเด็นที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์กันไม่จบ สำหรับกรณีที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้าวเก่าที่โกดัง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นข้าวจากโครงการรับจำนำข้าว โดยนายภูมิธรรม ได้ให้เจ้าหน้าที่หุงข้าวแล้วโชว์กินข้าวที่เก็บสต๊อกไว้ในโกดังมานานถึง 10 ปี พร้อมบอกยังกินได้นั้น
เรื่องนี้ มีหลายฝ่ายออกมาแสดงความเห็นว่า แม้ข้าวเก่านี้จะสามารถหุงกินได้ แต่อาจมีเชื้อรา หรือ สารก่อมะเร็งชนิดรุนแรงอย่าง อะฟลาท็อกซิน ปนเปื้อนอยู่ จึงควรทำการตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง ขณะที่บางส่วนมองว่า ความคิดที่จะส่งออกข่าวไปยังต่างประเทศนั้น อาจทำให้ประเทศเสื่อมเสียชื่อเสียงจากการส่งออกข้าวที่ไม่ได้คุณภาพ
หลังกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้น นายภูมิธรรม ก็ได้ออกมาวอนหยุดดราม่าข้าวเก่า 10 ปี พร้อมยืนยันไม่ได้ขายในไทย แต่เตรียมส่งออกทวีปแอฟริกา
9 พ.ค. 67 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายว่า ได้มีการผ่ากองเก็บตัวอย่างข้าวจากกระสอบที่อยู่ภายในกองตามมาตรฐานการตรวจสอบ พบว่า ในทางกายภาพเมล็ดยังคงมีความสมบูรณ์ ไม่มีลักษณะเสียหายจากการถูกทำลายด้วยแมลง มีฝุ่น และมีสีเหลืองงา ตามสภาพระยะเวลาที่เก็บรักษา และภายหลังจากที่ผู้ประกอบการทั้งโรงสีและผู้ส่งออกที่ร่วมการตรวจสอบทดลองทานแล้ว พบว่า ข้าวไม่แข็งกระด้าง ยังคงมีความนุ่ม มีลักษณะเช่นเดียวกับข้าวเก่า ซึ่งมีหลายประเทศที่มีความต้องการข้าว ที่มีลักษณะเช่นนี้
ปกติข้าวสารที่เก็บในคลัง ก่อนที่จะนำไปใช้เพื่อการบริโภคหรือส่งออก ก็จะต้องนำไปปรับปรุงคุณภาพเพื่อให้ได้มาตรฐานทางด้านการค้า และสุขอนามัยตามที่กำหนด ไม่ได้นำข้าวจากคลังที่เก็บไว้ไปขายทันที ต้องดำเนินการปรับปรุงคุณภาพ โดยการปรับปรุงมากน้อยจะขึ้นอยู่กับสภาพของข้าว และเงื่อนไขข้อตกลงหรือมาตรฐานของผู้ซื้อ เช่น ขัดสีของเมล็ด ขจัดสิ่งเจือปน และอื่นๆ ที่จำเป็น เพื่อให้ผ่านมาตรฐานก่อนขาย เพราะไม่มีบริษัทไหนจะยอมเสียชื่อ
เช่นเดียวกับข้าวสารในสต็อกของรัฐบาลล็อตสุดท้ายนี้ ก็จะต้องมีการปรับปรุงคุณภาพให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้เช่นเดียวกัน
นายวัฒนศักย์ กล่าวต่อด้วยว่า สำหรับครั้งนี้ อคส. จะจัดประมูลเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอให้รอผลการประมูลว่าเป็นอย่างไร โดยราคาประมูลจะเป็นตัวชี้วัดคุณภาพของข้าวว่าดีหรือไม่ เพราะคงไม่มีโรงสี ผู้ส่งออก หรือผู้ประกอบการใดยอมที่จะเสนอราคาสูงกว่าคุณภาพข้าวที่ตนประมูลซื้อ
อย่างไรก็ตาม ในการระบายข้าวสต็อกของรัฐบาลล็อตสุดท้ายนี้ จะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้มีการตรวจทดสอบคุณภาพข้าว และจำหน่ายข้าวสารล็อตสุดท้ายของรัฐบาลชุดนี้จะเปิดให้เอกชน ผู้ประกอบการเข้าประมูลซื้อได้อย่างเต็มที่ รวมถึงเปิดโอกาสให้สามารถเข้าไปพิสูจน์ตรวจสอบคุณภาพข้าวได้ทั้ง 2 คลัง ก่อนตัดสินใจเสนอราคาซื้อ
แต่ อคส. จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้าประมูลว่า เป็นผู้ที่ไม่เคยทำความเสียหายให้กับทางราชการ และเมื่อตรวจสอบเรียบร้อยแล้วก็จะทำการเปิดให้มีการประมูลและรับทราบผลการประมูลซื้อภายหลังเสร็จสิ้นการประมูลภายในวันเดียวกัน
ซึ่งการประมูลครั้งนี้ก็จะทำให้รัฐบาล ไม่ต้องมีภาระเก็บสต็อก อีกทั้งมีรายได้ส่งคืนรัฐ และส่วนหนึ่งก็จะเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นภายใต้โครงการ โดยสามารถติดตามการเปิดประมูลได้ที่เว็บไซต์ของ อคส. กรมการค้าภายใน และกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักย์ กล่าว.
คลิปอีจันแนะนำ
เปิดคำทำนาย วันพืชมงคล พระโคเสี่ยงทาย ปี 2567