30 ต.ค. 65 ตำรวจสอบสวนกลาง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงจับกุมเครือข่ายลวงเด็ก 13 ปี ไปค้าประเวณีที่ประเทศมาเลเซีย โดยคดีนี้มีผู้ต้องหารวม 5 ราย
เหตุการณ์เริ่มต้นจากการที่เด็กหญิงเอ (นามสมมติ) ได้โพสต์หางานลงในกลุ่มเฟสบุ๊ก เมื่อ 1 ก.ค. 65
ต่อมา วันที่ 3 ก.ค.65 นางสาวเมธินี (สงวนนามสกุ) ได้ส่งข้อความหาเด็กหญิงเอ ชักชวนไปทำงานที่มาเลเซีย โดยบอกว่าให้ไปทำงานดูแลร้านนวด รายได้ 20,000 -200,000 บาท ถ้าสนใจก็แอดไลน์เพื่อคุยรายละเอียด เด็กหญิงเอ หลงเชื่อ จึงติดต่อเพื่อคุยรายละเอียด โดยที่เหยื่อไม่รู้ชะตาชีวิตเลยว่า นั่นคือ “กับดัก”
จากนั้นในวันที่ 8 ก.ค. 65 นายวันเผด็จ (สงวนนามสกุล) ไปรับเด็กหญิงเอ มาพักที่บ้าน อ.บางปะกง เพื่อรอไปทำงาน
14 ก.ค. 65 นายลีโอ (สงวนนามสกุล) พาเด็กหญิงเอ เดินทางไป สุไหง-โกลก จ.นราธิวาส และพาไปส่งที่ประเทศมาเลเซียผ่านเส้นทางธรรมชาติ
15 ก.ค. 65 เด็กหญิงเอ เดินทางถึงประเทศมาเลเซีย แล้วถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศ โดยมีนางสาวเกษณี (สงวนนามสกุล) เป็นผู้ควบคุมเครือข่ายขายบริการทางเพศ และมีนางนฤมล (สงวนนามสกุล) เป็นคนที่คอยหาลูกค้า
25 ก.ค. 65 เด็กหญิงเอ ติดต่อกลับมาที่แม่เพื่อขอความช่วยเหลือ แม่จึงเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ปคม. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทันที
27 ก.ค. 65 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์เปิดปฏิบัติการ “SAVE ผ้าขาว” ปิดล้อมตรวจค้นจับกุมเครือข่ายค้าประเวณีเด็กหญิง อายุ 13 ปี โดยปฏิบัติการพร้อมกัน และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 5 ราย คือ
1.น.ส.เกษณี
2.นางนฤมล
3.น.ส.เมธินี
3 รายนี้ หลบหนีมาอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานความร่วมมือกับกองบังคับการปราบปราม, กองบังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของประเทศมาเลเซีย (CID) ในการสืบหาตัวผู้ต้องหา จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายได้ที่โรงแรมย่าน Selangor และยังได้เข้าช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกลวงมาขายบริการทางเพศ ได้อีก 4 ราย เป็นหญิงไทย 2 ราย และหญิงชาวอินโดนีเซีย 2 ราย
ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน คือ นายลีโอ จับกุมได้ที่ จ.ชลบุรี และ นายวันเผด็จ จับกุมได้ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ทั้ง 2 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ที่น่าสลดคือ หลังช่วยเด็กหญิงเอ ออกมาได้ เด็กเล่าให้ฟังถึงความทรมานว่า… หากวันไหน ตนเองปวดท้อง ไม่สบาย อีกฝ่ายก็จะไม่ให้หยุดงาน และยังข่มขู่ว่าหากไม่ทำงานจะส่งไปขายให้บุคคลอื่น!
ทั้งนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ฝากเตือนประชาชนว่า ปัจจุบันสื่อสังคมออนไลน์ เด็กและเยาวชนมีพฤติกรรมเสพติดการใช้งานสื่อโซเชียลเป็นอย่างมาก อาชญากรจึงอาศัยช่องว่างดังกล่าว แฝงตัวเข้ามาชักจูงเหยื่อ โดยยื่นข้อเสนอต่างๆ ให้เหยื่อหลงเชื่อ จนนำไปสู่การหลอกลวงไปค้าประเวณีต่างประเทศ
พร้อมฝากถึงผู้ปกครองให้ใส่ใจลูกหลานหมั่นให้ความรู้ รวมถึงรู้เท่าทันถึงรูปแบบการกระทำความผิดของอาชญากรบนสื่อสังคมออนไลน์เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกหลานตกเป็นเหยื่อของอาชญากร