หนุ่มสุดทน! เมียถูกพระข่มขืน จนท้อง 7 เดือน แถมสึกมาขู่ฆ่าถึงบ้าน

หนุ่มสุดทน! เมียถูกพระข่มขืน-ถ่ายคลิปแบล็กเมล์ ขณะเดินสายทำบุญ จนท้อง 7 เดือน แถมสึกมาตามแย่งลูก เมีย และขู่ฆ่าถึงบ้าน

ฉาววงการสงฆ์! 

จากกรณีนายวรุต อายุ 36 ปีหนุ่มนักดนตรีชาว จ.อุบลราชธานี เข้าร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด หลังรู้ความจริงว่านางวรรณภา อายุ 31 ปี ภรรยาที่จดทะเบียนสมรสแต่งงานกันมา 8-9 ปี ตั้งท้อง 7 เดือน เพราะถูกพระข่มขืน ระหว่างไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่ง ใน จ.ยโสธร พร้อมถ่ายคลิปแบล็กเมล์ จนตั้งท้อง 7 เดือน แล้วพระตัดสินใจสึก และบุกมาที่บ้านเพื่อมาทวงทารกและเมียจากสามีนักดนตรี พร้อมขู่เอาชีวิตหากไม่ยินยอม

ล่าสุดวานนี้ (31 มี.ค.67) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นไปยังวัดป่าธรรมจารี ที่ถูกกล่าวอ้างถึง และได้พบ พระวิเศษ อายุ 64 ปี เจ้าสำนักสงฆ์วัดป่าธรรมจารี ท่านเล่าว่า ที่วัดมีพระอยู่ 2 รูป แต่พระที่เป็นข่าวไม่ใช่พระลูกวัดป่าธรรมจารี เป็นพระช่างที่มาสร้างองค์พระเท่านั้น โดยพระรูปดังกล่าวมาอยู่วัดประมาณ 10 วัน คือช่วงก่อนเข้าพรรษาของปี 66 ที่ผ่านมา มาสร้างองค์พระและมาพักที่วัดเพียง 7 วัน โดยมาทั้งหมด 6 คน มีพระ 3 รูป และสายบุญ รวมทั้งนางวรรณภาด้วย จากนั้นพระรูปดังกล่าวก็ได้กลับไปยังวัดต้นสังกัดเพื่อเข้าพรรษา และกลับมาทาสีองค์พระที่วัดอีก 3 วัน จนเสร็จซึ่งก็มาพร้อมคณะเดิม

พระวิเศษ กล่าวต่อว่า ทั้งสองฝ่ายก็โทรมาปรึกษาตนอยู่ ซึ่งตนก็แนะนำไปว่าให้หันหน้าคุยกันดีๆ อย่าทะเลาะกัน แต่ทั้งคู่ก็ไม่ยอม ส่วนนิสัยของอดีตพระรูปดังกล่าวที่ตนเห็นนั้นเป็นคนขยันทำงาน ไม่สุงสิงกับใคร ตอนอยู่ที่วัด พฤติกรรมของทั้งคู่สนิทสนมกัน ซึ่งตนก็คิดว่าเหมือนลูกศิษย์กับอาจารย์และเหมือนสายบุญทั่วไปที่ร่วมกันมา และตอนที่มาสร้างองค์พระทั้งพระและญาติโยมก็ต่างแยกกันนอนคนละจุด 

ด้าน พ.ต.อ.อนุสรณ์ วรรณพิณ ผกก.สภ.ทรายมูล เผยว่าเมื่อวันที่ 25 มี.ค.67 ที่ผ่านมา นางวรรณภา ผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับอดีตพระสนั่น ชาว จ.สุรินทร์ ในข้อหาข้อหาข่มขืน และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ  ซึ่งหลังจากรับแจ้งทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีพร้อมตนได้ลงพื้นที่เกิดเหตุแล้ว พร้อมจะติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินการตามกฎหมาย ภายในสัปดาห์นี้ ประมาณวันที่ 8 เม.ย.67

นอกจากนี้ พ.ต.อ.อนุสรณ์ ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย และรวดเร็วทันที และหากนางวรรณภา ผู้เสียหายได้เดินทางมาในพื้นที่ทรายมูล และยังถูกข่มขู่คุกคามอีกให้รีบแจ้งมายังตำรวจในพื้นที่ตนพร้อมเข้าไปช่วยเหลือ และดำเนินการต่อผู้กระทำความผิดในทันที เช่นกัน