
สุดสะเทือนใจ! พ่อแท้ๆ จับลูกสาววัย 14 ปี ขังในบ้านแล้วข่มขืนบังคับถ่ายคลิปทำ Onlyfans ซ้ำยังตระเวนหาชายแปลกหน้ามาข่มขืนลูกและเมียตัวเอง กว่า 7 วัน 7 คืน พอโดนจับกลับ ยืนยันเสียงแข็ง “ลูกโกหก เพราะอยากได้ไอโฟน”
วันที่ 14 ก.ย.67 เจ้าหน้าที่สืบนครบาล ได้สืบสวนติดตามจับกุมตัวนายอนณ หรือ “เจมส์ ทศกัณฑ์” อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 หมายจับ ดังนี้
1. หมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี จ.641/2567 ลงวันที่ 19 ส.ค. 67 ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดาน”
2. หมายจับศาลแขวงปทุมวันที่ จ.114/2566 ลงวันที่ 6 พ.ย. 66 ข้อหา “ฉ้อโกง”
3. หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.365/2566 ลงวันที่ 1 พ.ค. 66 ข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น”
4. หมายจับศาลแขวงสมุทรปราการที่ จ.75/2566 ลงวันที่ 28 เม.ย. 66 ข้อหา “ความผิดตาม พ.ร.บ.เช็คฯ”

พบประวัติคดีอาญา 7 คดี
1. วันที่ 21 มี.ค. 63 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” พื้นที่ สภ.ผึ่งแดด จ.มุกดาหาร
2. วันที่ 16 ก.ค. 65 ถูกจับกุมข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” พื้นที่ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
3. วันที่ 29 ธ.ค. 65 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ฉ้อโกง” พื้นที่ สน.ปทุมวัน
4. วันที่ 15 ก.พ. 66 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” พื้นที่ สน.ทองหล่อ
5. วันที่ 30 มี.ค. 66 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ความผิดตาม พ.ร.บ.เช็คฯ” พื้นที่ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
6. วันที่ 7 เม.ย. 66 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” พื้นที่ สน.หัวหมาก
7. วันที่ 31 ก.ค. 67 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีและเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดาน” พื้นที่ สภ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี

สืบเนื่องจากชุดสืบนครบาลได้สืบสวนติดตามตัว “เจมส์ทศกัณฑ์” ซึ่งตระเวนก่อเหตุฉกโทรศัพท์ ด้วยการลวงให้ส่งของผ่านบริการรถรับจ้าง แล้วใช้จังหวะช่องโหว่ลักโทรศัพท์เหยื่อ โดยก่อเหตุลักษณะเดียวกันต่อเนื่องหลายคดีในพื้น สน.ปทุมวัน , สน.ทองหล่อ และ สน.หัวหมาก จนถูกออกหมายจับ
ระหว่างที่ชุดสืบนครบาลไล่ล่าติดตามจับกุมตัว ได้พบกับลูกสาวของคนร้ายวัย 14 ปี จึงได้รับทราบเรื่องราวสุดสะเทือนใจ เธอเล่าให้กับเจ้าหน้าที่ฟังว่า คนร้ายเป็นพ่อแท้ๆ ของเธอ โดยในปลายเดือน ก.ค. 67 ระหว่างที่เธอนั่งบนรถยนต์กับพ่อ พ่อได้ชักชวนเธอให้ทำหนังผู้ใหญ่หรือที่เรียกว่า OnlyFans และพาเธอไปฉีดยาคุมที่คลินิกย่านทุ่งครุ ก่อนจะพาตัวเข้าไปในบ้านพักย่านคลองหลวง เธอพยายามขัดขืนแต่พ่อข่มขู่พร้อมกับยึดโทรศัพท์ ก่อนขังเธอไว้ในบ้านพัก จากนั้นได้เริ่มลงมือข่มขืนเธอกว่า 7 วัน 7 คืน ซ้ำยังออกไปตระเวนหาคนแปลกหน้ามาข่มขืนเธอ เพื่อถ่ายคลิป 18+ และพ่อยังเรียกเมียใหม่พ่อ พร้อมกับชายแปลกหน้าที่หามา ให้ร่วมถ่ายคลิปพร้อมกับเธอ
เธอถูกกระทำชำเราทุกวันจนทนไม่ไหว จึงพยายามหลบหนี โดยแอบเอาโทรศัพท์ทักไปบอกญาติ แต่ถูกจับได้ จึงโดนทำร้ายข่มขู่ พร้อมท้าทายว่าไม่กลัวตำรวจ ถ้ามาจะเอาขวานฟัน และสุดท้ายเธอสามารถออกจากบ้านมาได้ จึงเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดี
ศาลจังหวัดธัญบุรี จึงได้อนุมัติหมายจับ ในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดาน” แต่หลังจากเรื่องแดงขึ้นคนร้ายไหวตัว ทำลายหลักฐานถอดกล้องวงจรปิดก่อนหลบหนีออกนอกพื้นที่

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงส่งชุดสารวัตรแจ๊ะ ติดตามไล่ล่าคนร้ายรายนี้ จนได้เบาะแสว่าหลบหนีไปอยู่ที่บ้านเช่าในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.เพชรบุรี จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม โดยขณะจับกุมเจ้าตัวอยู่กับแฟนสาวภายในบ้านพัก คนร้ายทำท่าที “ดึงเข้ม” ใส่ชุดสืบสวนเมื่อเค้นสอบขยายผล จนได้ข้อมูลว่าคนร้ายได้วางแผนกับแฟนสาวทำมิดีมิร้ายกับบุตรสาวจริง ไม่ว่าจะแอบวางยาและวางแผนการอื่นๆ ซ้ำยังพบว่าคนร้ายเปิดเป็นแอดมินกลุ่มลับ “มิกิ” ไลฟ์สดโป๊เปลือยแนววิปริต โดยตระเวนให้แฟนของตัวเองไปนอนกับชายอื่นแล้วถ่ายไลฟ์สดจำนวนมาก
และที่ทำให้อึ้ง คือ ชุดสืบสวนพบแชทการวางแผนของคนร้ายที่จะให้ชายอื่น “มามีเพศสัมพันธ์กับบุตรสาวตัวเอง” และยังพบหลักฐานการ “แบล็คเมล” หลอกให้เด็กสาววัย 15 ปี ถ่ายเรือนร่างแล้วขู่เอาเงินเป็นจำนวน 5,000 บาท
ในชั้นจับกุม คนร้ายให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองไม่ได้ทำหนังโป๊ แต่ที่ตำรวจพบคือการไลฟ์สดการมีเพศสัมพันธ์ ส่วนที่ลูกสาวแท้ๆ ของตนไปแจ้งความเพราะว่าตนไม่ยอมซื้อโทรศัพท์ไอโฟนให้ลูก ลูกเลยไปแจ้งความดำเนินคดี ส่วนที่ย้ายที่อยู่บ่อยๆ เพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายจึงเปลี่ยนที่อยู่ ยอมรับว่าทำคลิปโป๊จริง โดยจะให้แฟนคนปัจจุบันเป็นนักแสดงหลัก ตระเวนหาชายอื่นและโลเคชั่นอื่นๆ เพื่อถ่ายทำ บางครั้งก็ให้ชายแปลกหน้า 2 คน มามีเพศสัมพันธ์กับแฟนตัวเอง โดยยอมรับว่าเป็นรสนิยมทั้งตนและแฟน แต่ยังปฏิเสธว่าไม่ได้ทำเช่นนี้กับลูกสาวตัวเอง เป็นเพราะเด็กกุเรื่องขึ้นมาเอง” หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เราไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะจากการขยายผลพบพยานหลักฐานสอดคล้องไปทางคำให้การของฝ่ายผู้เสียหาย อีกทั้งยังพบหลักฐานการทำลายพยานหลักฐานและการหลบหนีของผู้ต้องหา และยังพบพยานหลักฐานที่เป็นความผิดอีกหลายข้อหา โดยยังพบว่ามีเด็กสาววัย 15 ปี กำลังตกเป็นเหยื่อการแบล็คเมลของคนร้ายอีกด้วย ซึ่งเราจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด และจะมีการแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับผู้ต้องหารายนี้ต่อไป