ตร.ไซเบอร์ จับคนร้าย ขายข้อมูลส่วนบุคคล กว่า 2 ล้านชื่อ ในราคา 7 พัน

ราคาแค่เนี้ย!? ตร.ไซเบอร์ จับกุมคนร้าย ขายข้อมูลส่วนตัว 2 ล้านชื่อ ในราคาแสนถูก ให้กลุ่มธุรกิจมืด เอาไปทำธุรกรรม-หลอกลวง

น่าตกใจ! กลุ่มธุรกิจสีเทา ถือข้อมูลส่วนบุคคลกว่า 15 ล้านรายชื่อ

เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 66 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท., สั่งการให้ พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผกก.3 บก.สอท.5, พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผกก.3 บก.สอท.5, พ.ต.อ.ศุภกร ธัญญกรรม ผกก.1 บก.สอท.5 นำกำลังจับกุมคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

โดยกรณีแรกเป็นการขยายผลการจับกุมผู้ต้องหาขายข้อมูลส่วนบุคคล กว่า 2 ล้านรายชื่อ ในราคา 7,000 บาท ให้กับกลุ่มธุรกิจสีเทา, กลุ่มเว็บพนันออนไลน์ (มีบัญชีม้า), กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีพฤติกรรมหลอกลวง ผ่านแอปพลิเคชั่นเฟซบุ๊ก โดยขยายผลจับกุม นายศุภากรณ์ อายุ 24 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นผู้ขายข้อมูลให้กับผู้ต้องหาก่อนหน้า ได้ที่บ้านพักย่าน พุทธมณฑลสาย 3 เขตทวีวัฒนา

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาสารภาพว่า รับซื้อข้อมูลจากกลุ่มลูกค้า ที่เคยซื้อขายอาหารเสริมยี่ห้อดัง และจากกลุ่มสีเทา ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลกว่า 15 ล้านรายชื่อ นำมาโพสต์ขายต่อในเฟซบุ๊กให้กับกลุ่มธุรกิจสีเทา มีรายได้กว่า 400,000 บาท นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีการขายโปรแกรมซอฟต์แวร์ยิงข้อความ และโปรแกรมซอฟต์แวร์ดักจับใบหน้าของบัญชีม้า ให้กับกลุ่มที่ต้องการซื้อขายบัญชีม้าไว้ใช้สำหรับสแกนใบหน้าก่อนโอนเงิน เพื่อยืนยันตัวตนในกรณีที่ต้องโอนเงินเกิน 50,000 บาท

มีรายงานว่า โปรแกรมดังกล่าวถูกทำขึ้นเพื่อแก้ไขการโอนเงิน หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาตรการให้ลูกค้ายืนยันตัวตนด้วยใบหน้า (Biometrics) เมื่อโอนเงินเกิน 50,000 บาท และโอนเงินเกิน 200,000 บาทต่อวัน โดยคนร้ายได้คิดค้นโปรแกรมในส่วนนี้ขึ้น เพื่อดักจับใบหน้า รวมทั้งบันทึกใบหน้าของเจ้าของบัญชีม้าตั้งแต่เริ่มใช้งาน และเมื่อนำไปใช้ก็ไม่ต้องสแกนใบหน้า อีกต่อไป

มิจฉาชีพปัจจุบันนี้ น่ากลัวขึ้นทุกวันนะครับ

คลิปอีจันแนะนำ
คำสารภาพจาก มิจฉาชีพ ขายข้อมูลคนไทย 15 ล้านชื่อ