ล่าสุดเวลา 14.57 น. วันนี้ (12 ก.ค. 66) ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ตำรวจ จ.กาญจนบุรี สามารถจับกุมผู้ต้องหาคนที่ 3 ได้แล้ว คือนายซาฮ์รูค เชื้อชาติปากีสถาน สัญชาติไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างนำตัวมาที่ สภ.หนองปรือ ซึ่งคาดว่าจะมาถึงช่วงเย็นวันนี้
นอกจากนี้ตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับคดีนี้ โดยเปิดเผยว่า วันนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ที่สามารถจับกุมตัวได้คือ นางเพธา และ นายโอลาฟ ผู้ต้องหาอุ้มนักธุรกิจชาวเยอรมันฆ่าหั่นศพ ยังคงไม่ให้ข้อมูลอะไรกับตำรวจมีเพียงแต่พูดคำว่า “ไม่ขอตอบ” จะรอจนกว่าทนายจะเข้ามาพบ
โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นางเพธา มีภาวะเครียดหนักจนทำให้มีอาการแน่นหน้าอก ตำรวจจึงประสานหน่วยกู้ชีพมากูอาการ
“เพธา” แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ตร.ประสานกู้ชีพดูอาการจนช่วงเวลา 13.21 น. ตำรวจได้นำตัวนายโอลาฟ ออกจากห้องขังเพื่อพาตัวไปสอบปากคำที่ชั้น 2 โดยมีล่ามแปลภาษาอยู่ในห้องสอบนั้นด่วย ซึ่ง โอลาฟ เอามือมาปิดใบหน้าและไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
ขณะเดียวกันตำรวจก็ได้เชิญตัวครอบครัวของ นายฮันส์ ปีเตอร์ ผู้เสียชีวิต มาเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม
ต่อมา 15.08 น. ล่ามแปลภาษา ผู้ช่วยเหลือตำรวจ ได้ลงมาให้สมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยเปิดเผยว่า โอลาฟไม่ยอมรับว่าเป็นคนฆ่านายฮันส์ ปีเตอร์ ยอมรับเพียงแต่รู้เห็นการเคลื่อนย้ายศพเท่านั้น
นอกจากนี้ในส่วนของ นางนิโคล ผู้อาศัยอยู่ในบ้านที่โอลาฟนำตู้แช่ศพของนายฮันส์ไปไว้ในบ้าน ที่โดนแจ้งข้อหานั้น
คดีฆ่าหั่นศพ นักธุรกิจเยอรมัน บิ๊กโจ๊กมั่นใจ หลักฐานมัดตัว ดิ้นไม่หลุดพ.ต.อ.ทวี กุดแถลง เผยว่า ขณะที่ทำการบุกเข้าค้นบ้านหลังนั้นเมื่อวันที่ พบว่า น.ส.นิโคล นั่งซ่อนตัวในห้องเล็ก ๆ ด้านหลัง เมื่อเห็นตำรวจ เธอได้เกิดอาการตกใจกลัว กระโดดคว้ามีด แล้วกรีดข้อแขนตัวเองหลายครั้ง จนเป็นแผลเหวอะหวะ พร้อมทั้งไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ โดยอ้างว่า “ต้องตายวันนี้ ถ้าไม่ตาย ก็ต้องถูกตามฆ่า” เจ้าหน้าที่ต้องรีบปฐมพยาบาลแล้วนำตัวส่ง โรงพยาบาลบางละมุง เบื้องต้นอาการปลอดภัยแล้ว
ทั้งนี้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้เดินทางมาที่ สภ.หนองปรือ ซึ่งเบื้องต้นตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้ทำการถอดถอนวีซ่าทำผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้จำนวน 3 ราย ได้แก่ นายโอลาฟ ,นางเพธา ,นางนิโคล