พ่อคาใจสาเหตุ ลูกสาว 2 ขวบ ถูกทำร้ายเลือดคั่งในสมอง!

พ่อชาวโคราชร้องสื่อ ลูกสาว 2 ขวบ ถูกทำร้ายเลือดคั่งในสมอง ศูนย์เด็กเล็กปัดไม่รู้สาเหตุ ล่าสุดต้นสังกัดสั่งตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว

อีกหนึ่งเหตุความรุนแรงในโรงเรียน ซึ่งเป็นศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เมื่อลูกถูกทำร้ายจนหน้าตาบวมปูด แต่กลับหาสาเหตุและผู้กระทำไม่ได้!

โดยวันนี้ (8 ก.ค. 65) นายบัญชา (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ชาว อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้นำหลักฐานภาพถ่ายลูกสาว วัย 2 ขวบ ที่ได้รับบาดเจ็บมีแผลฟกช้ำบวมปูดที่ดวงตา ใบหน้า และศีรษะ เข้าร้องเรียนกับทีมข่าวอีจันเพื่อขอความเป็นธรรม หลังจากลูกสาวที่เรียนอยู่ปฐมวัยของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ถูกทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บอาการสาหัส ซึ่งยังพิสูจน์ไม่ชัดเจนว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และยังไม่มีผู้ใดแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

คุณพ่อ เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนกับภรรยาไปรับลูกหลังเลิกเรียน สังเกตเห็นลูกมีอาการหวาดกลัว หน้าซีด ตนจึงได้สอบถามลูกสาวบอกว่า ปวดหัว หนูไม่อยากมาโรงเรียนแล้ว และหลังจากตนรับลูกสาวกลับบ้าน ลูกสาวมีอาการปวดหัวรุนแรง ถึงขั้นอาเจียน เมื่อดูที่หัวมีลักษณะบวมช้ำ แต่ไม่มีบาดแผลภายนอก ตนจึงพาลูกไปโรงพยาบาล แพทย์ได้ทำการเอกซเรย์พบว่า ลูกสาวมีอาการเลือดคั่งในสมอง ตนรู้สึกตกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อไปสอบถามกับครูพี่เลี้ยงที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า เด็กเอาตัวต่อเลโก้เล่นตีกันเอง พร้อมกับบอกกับตนแค่ว่า ขอให้หายเร็วๆ นะ

คุณพ่อ ยังเล่าอีกว่า ตนสอบถามลูกสาว ลูกสาวกลับบอกว่า ครูทำ ครูตี แต่ตนยังไม่มั่นใจว่าลูกสาวของตนถูกครูตีหรือเด็กๆ เล่นแล้วทำร้ายกันเอง ซึ่งตนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม และอยากให้ทางศูนย์พัฒนาเด็กเล็กออกมาแสดงความรับผิดชอบ และจนถึงขณะนี้ลูกสาวของตนก็ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และมีอาการปวดหัวอยู่ตลอดเวลา

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปยังศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่เกิดเหตุ คือศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม พบว่าภายในศูนย์ฯ ไม่มีกล้องวงจรปิด และจากการสอบถาม นางจิตติมา ปางเศรณี รองปลัดเทศบาลฯ ที่ดูแลรับผิดชอบศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งนี้ เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทางคณะผู้บริหารเทศบาลฯ ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้เรียกครูประจำห้องของเด็กทั้ง 2 คนมาสอบถามข้อเท็จจริง เบื้องต้นครูทั้งสองคนบอกว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำ แต่ทางผู้บริหารเทศบาลฯ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้สั่งตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง และดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด

ด้าน ครูณี (นามสมมุติ) ครูประจำห้องของเด็กหญิง เปิดเผยว่า ตนเองก็รู้สึกตกใจหลังจากทราบเรื่อง และยืนยันว่าไม่ได้กระทำรุนแรงกับเด็ก โดยจากการตรวจสอบข้อมูลในวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางโรงเรียนมีการจัดกิจกรรมตามปกติในตอนเช้า จัดหน่วยการเรียนรู้ให้น้องได้ระบายสีรูปภาพ ทางโรงเรียนก็ได้บันทึกวีดีโอการจัดกิจกรรมไว้ตลอด และให้เด็กเล่นเลโก้ตัวต่อเสริมทักษะที่เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม หลังจากทำกิจกรรมเสร็จก็ได้พาเด็กไปทานข้าวเที่ยง ประมาณ 10.30 น. หลังจากนั้นได้พาเข้านอนที่ห้องเรียนตามปกติ

ต่อมาได้พาเด็กตื่นนอนในช่วงเวลา 14.30 น. ได้พาน้องไปล้างหน้าหวีผม และรอผู้ปกครองมารับตามปกติ ซึ่งน้องก็ไม่มีอาการอะไรที่จะบ่งบอกว่าเจ็บหัว ซึ่งอุปนิสัยน้องจะเป็นคนพูดเก่ง ชอบเล่นกับเด็กผู้ชาย โดนอะไรนิดหน่อยก็จะร้องเสียงดัง ตนก็รู้สึกตกใจว่าเกิดขึ้นได้ยังไงและเกิดจากอะไร ตนก็อยากรู้ความจริงเหมือนกันว่าน้องไปโดนอะไรมา หลังจากนั้นตนเองก็ได้ติดต่อพูดคุยกับทางผู้ปกครองเด็กตั้งแต่วันแรกสอบถามอาการมาตลอด ครูยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทำน้อง และพร้อมที่จะให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกอย่าง และตนรู้สึกเป็นห่วงน้อง อยากให้น้องหายเร็วๆ เป็นปกติ ขอให้พระคุ้มครอง หลังจากนี้ทางครูก็จะทำหน้าที่ดูแลเด็กๆ ให้ดีที่สุด

คลิปแนะนำอีจัน
จับตำรวจท่องเที่ยว ปลอมเป็นปกครอง รีดส่วย ผับบาร์!!!