พ่อแม่ร้องปวีณา ลูกชายวัย 3 ขวบ กลับจากโรงเรียน กลับพบร่องรอยถูกทำร้ายเต็มหลัง !

พ่อแม่จูงมือลูกชายวัย 3 ขวบ เข้าร้อง มูลนิธิปวีณา หลังมีอาการผวา ไม่อยากไปโรงเรียน และมีร่องรอยถูกทำร้ายเต็มหลัง

วันนี้ (20 ก.พ.64) อีจันมาที่มูลนิธิปวีณา หลังจากได้รับเเจ้งว่า มีคุณแม่ท่านหนึ่งเดินทางเข้าร้องคุณปวีณา หงสกุล หลังจากพบว่าลูกชายวัย 3 ขวบเศษ กลับจากโรงเรียน เมื่อจะจะพาลูกไปว่ายน้ำ กลับพบว่าหลังของลูกชาย มีร่องรอยคล้ายคล้ายรอยหยิก รอยตี

ด้านคุณพ่อของน้องเอ (นามสมมติ) เล่าว่า ตนส่งน้องเอเข้าเรียนที่โรงเรียนเอกชนแห่งนี้ จ.นนทบุรี ตั้งเเต่เมื่อวันที่ 1 ก.พ.64 ค่าเทอมประมาณ 40,000 บาท สาเหตุที่เลือกส่งลูกเข้าเรียนโรงเรียนนี้เป็นเพราะ เห็นว่าลูกเพื่อนข้างบ้านก็เรียนที่นี่ เเละมีพัฒนาการด้านภาษาอังกฤษดี ตนจึงส่งน้องเอเข้าเรียน

เเต่ผ่านมาได้ 2 อาทิตย์ น้องเอ ก็เริ่มมีอาการผิดปกติ คือ ไม่อยากไปโรงเรียน

เเละก่อนหน้านี้ช่วงประมาณวันที่ 13-14 ก.พ.64 น้องเอ ก็มีบาดแผลตามตัวบ้างเล็กน้อย ซึ่งจากการสอบถามครูประจำชั้น ก็บอกว่า เป็นเพียงเด็กเล่นกันเท่านั้น

จนกระทั่งวันที่ 16 ก.พ.64 คุณพ่อไปส่งลูกตามปกติ เเต่วันนั้นไปถึงโรงเรียนสาย น้องก็แสดงออกว่าไม่อยากขึ้นอาคารเรียน วิ่งสวนลงมาจากบันไดเเล้วก็มีครูมาพาน้องขึ้นห้องเรียนไป

พอตกเย็น ไปรับลูกกลับจากโรงเรียน ประมาณ 16.00 น. ก็พบว่าน้องเอ นั่งรอผู้ปกครองรวมกับกลุ่มเด็กโต อนุบาล 2 ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติ เเต่ก็ไม่ได้เอะใจ

จนเวลา 17.00 น. ถึงห้องพักเเละจะพาน้องเอไปเล่นน้ำ เเต่ลูกไม่ยอมถอดเสื้อออก พอถอดเสื้อออก ก็เจอกันร่องรอยเขียวช้ำ ลักษณะคล้ายการถูกหยิก ถูกตี หลายครั้ง เป็นบาดแผลน่ากลัวสำหรับเด็กวัย 3 ขวบ ซึ่งเมื่อถามว่าลูกชายไปโดนอะไรมา น้องเอก็ตอบแค่ว่า ผู้ชาย เจ็บๆ

ภรรยาจึงเเจ้งครูประจำชั้นทันที ก่อนจะพาลูกกลับไปที่โรงเรียนอีกครั้ง เพื่อเเจ้งเหตุเเละขอดูกล้องวงจรปิด ซึ่งทางโรงเรียนก็ให้ดูคลิปวงจรปิด เพียง 1-2 คลิปเท่านั้น เเละไม่พบอะไรผิดปกติ ซึ่งทางโรงเรียนเเจ้งว่าขอเวลา 1 สัปดาห์ – 1 เดือน เพื่อพิสูจน์หาความจริงที่เกิดขึ้น

ด้านพ่อเเม่จึงพาน้องเอไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลชลประทาน ซึ่งผลตรวจเบื้องต้นพบว่า น้องเอ มีรอยฟกช้ำที่หลัง เเละหลังหูทั้ง 2 ข้าง วันที่ 17 ก.พ.64 จึงเดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.รัตนาธิเบศร์

ซึ่งทางคุณพ่อเล่าเสริมอีกว่า เมื่อก่อนน้องเอ เป็นเด็กร่าเริง เเต่หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น น้องเอ ก็มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เป็นเด็กก้าวร้าวขึ้น ร้องไห้ ซึ่งคุณเเม่ก็กล่าวว่า น้องเอ ชอบพูดว่า ถ้าทำผิด น้องเอจะตีนะ ส่วนบาดเเผลทางร่างกายตอนนี้ อาการของน้องเอ ดีขึ้นตามลำดับแล้ว

ด้าน พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รองผู้กำกับสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ กล่าวว่า ตอนนี้ทางพนักงานสอบสวนจะทำใบส่งตัวตรวจร่างกายให้ เเละให้ทางผู้ปกครองพาน้องเอไปตรวจร่างกาย เพื่อใช้เป็นหลักฐาน เเละจะมีการนัดสอบปากคำเด็กร่วมกับสหวิชาชีพอีกครั้ง คาดว่าน่าจะเป็นในวันจันทร์หรืออังคารที่จะถึง (22-23 ก.พ.64) เเละขณะนี้ได้รวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดในโรงเรียนทั้งหมดแล้ว หากตรวจสอบอย่างละเอียดเเล้วพบตัวผู้กระทำผิดก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ คุณปวีณาก็ได้โทรประสาน ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งทาง ดร.กนกวรรณ ก็รับปากที่จะรับเรื่องนี้มาช่วยพิจารณา พร้อมทั้งยืนยันว่าจะดูแลเเละติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดด้วยตัวเอง เพื่อให้ครอบครัวของน้องเอได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด และได้มอบหมายให้กับทางตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ (สช.) เข้าร่วมหารือแนวทางช่วยเหลือน้องเอในวันนี้ด้วย

นอกจากนี้ ทางด้านโรงเรียนดังกล่าว ก็ได้ส่งตัวแทนมาเพื่อร่วมประชุมในวันนี้ โดยมี ผอ.โรงเรียน ครุประจำชั้น ครูผู้ดูแลประจำของห้องน้องเอเข้าร่วมฟังการหารือในครั้งนี้

จากการสอบถามครูประจำชั้นและครูผู้ดูแล กล่าวว่า เธอยืนยันว่าเธอไม่ทราบมาก่อนว่า ร่องรอยบนหลังของน้องเอเกิดจากอะไร และยืนยันว่าเธอไม่ได้เป็นคนทำแน่นอน เพราะเธอเองก็เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ ไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ อยากรู้ความจริงเหมือนกันว่า น้องเอ ไปโดนอะไรมากันแน่