บิ๊กโจ๊ก เร่งเช็กหลักฐาน คดีครูยุ่น เข้าข่ายค้ามนุษย์หรือไม่ ?

จากกรณี ครูยุ่น ผู้ดูแลมูลนิธิคุ้มครองเด็ก Child Protection Foundation – Thailand โดนแจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายเด็กในมูลนิธิ 

ครูยุ่น มูลนิธิคุ้มครองเด็ก เข้า รับทราบข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายเด็ก

21.00 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์จาก กองบินตำรวจ(ท่าแร้ง) เดินทางมาที่ สภ.อัมพวา เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีมีผู้ร้องเรียนการทำร้ายเด็กภายในมูลนิธิคุ้มครองเด็ก

พร้อมเรียก ตำรวจภาค 7, ตำรวจจังหวัดสมุทรสงคราม, ตำรวจ สภ.อัมพวา และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

ซึ่ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้แบ่งงาน มอบหมายให้แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบ ทั้งการรวบรวมพยานหลักฐาน, การรวมรวมกล้องวงจรปิด, การสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้อง, การรวมรวมพยานบุคคล

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า หลังจากตำรวจได้รับการร้องเรียน จึงได้ตั้งหลักสอบสวนจากคลิปวีดีโอ

ซึ่งจากการสืบสวนพบว่ามีการทำร้ายเด็กจริง และสอบปากคำเด็กแล้ว พบว่าครูยุ่น เอาเด็กมาทำงานที่โรงแรมของเพื่อนสนิทผู้หญิง

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.

โดยขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และแจ้งข้อกล่าวหานายมนตรี สินทวิชัย หรือครูยุ่น อดีต สว. ผู้รับใบอนุญาติจัดตั้งสถานสงเคราะห์เด็กเอกชน “บ้านคุ้มครองเด็ก3” (บ้านริมน้ำ) ใน 2 ข้อหา คือ 

• ข้อหาทำร้ายร่างกายเด็ก 

• ข้อหาใช้แรงงานเด็ก เนื่องจากกฎหมายกำหนดว่าเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี จะนำมาใช้แรงงานไม่ได้ ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม

สิ่งสำคัญคือการทำความจริงให้ปรากฎ ซึ่งตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.

จะมีการติดตามพยานหลักฐานต่างๆ ว่า ความผิดเหล่านี้จะเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ ?

ในส่วนโรงแรมของหญิงคนสนิท มีความเกี่ยวข้องและมีความผิดหรือไม่ ?

ดังนั้นจึงเป็นเพียงการเริ่มต้นของการสืบสวนสอบสวนเท่านั้น

วันนี้จึงลงพื้นที่มาตรวจสอบรายละเอียดในสำนวนสอบสวนด้วยตนเอง

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ บอกทิ้งท้าย ก่อน เดินทางกลับ

ทำความรู้จัก มูลนิธิคุ้มครองเด็ก อัมพวา องค์กรสาธารณะกุศลไม่แสวงหากำไร