หนุ่มคลั่ง จับลูกเมียเป็นตัวประกัน อ้าง เสพยาบ้า 60 เม็ด ขอโอกาสบำบัด

หนุ่มคลั่ง อ้างเสพยาบ้า 60 เม็ด หลอกเมีย-ลูกมา ก่อนจับเป็นตัวประกัน ตร.เกลี้ยกล่อมข้ามคืน หลังมอบตัว เผย กลัวเมียหนี จึงออกอุบายให้มาหา

วันที่ 2 ม.ค. 2566 เวลา ประมาณ 21.30 น. เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุธไธสวรรย์ รับแจ้งเหตุเด็กวัย 13 ปี แชทขอความช่วยเหลือ แจ้งว่าพ่อตัวเอง เกิดอาการคุ้มคลั่ง ใช้อาวุธมีดจี้ลูกเมียเป็นตัวประกัน และขังอยู่ภายในบ้าน จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครหลวง นำกำลังอุปกรณ์ไม้ง่าม ตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่บ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอนครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่า จุดเกิดเหตุเป็นบ้านไม้ใต้ถุนโปร่ง ภายในตัวบ้านปิดไฟมืดสนิท แต่ใต้ถุนบ้านเปิดไฟไว้ เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าคอยสังเกตการณ์อยู่ริมถนน แต่ชายคุ้มคลั่งเห็น จึงตะโกนด่าทอออกมาและไล่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มคนที่อยู่ด้านหน้าบ้าน ถอยออกไป หากไม่ถอยหรือเห็นเงาใคร ก็จะใช้อาวุธมีดแทงทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงสั่งให้นำกำลังถอยออกไป เพื่อเฝ้าสังเกตการณ์

สอบถามนางสาวเตยอายุ 16 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวคนโตเล่าทั้งน้ำตาว่า ผู้ที่ก่อเหตุ คือ นายชาลี อายุ 48 ปี เป็นพ่อของตนเอง ได้จับแม่และน้องอีก 3 คนเป็นตัวประกันอยู่ภายในบ้าน ซึ่งปกติพ่อจะทำร้ายและตบตีแม่แบบนี้ทุกวันเป็นประจำ เนื่องจากเสพยาบ้า ตนเองจึงขอร้องให้แม่ออกไปอยู่ที่อื่น เพราะสงสารแม่ แม่จึงย้ายออกไปอยู่ห้องเช่าได้เพียง 4 วัน ก็มีญาติของพ่อโทรไปบอกแม่ว่าพ่อหกล้ม ไม่สบาย ให้รีบกลับมาดูแล ตนเองก็บอกกับแม่ว่าอย่ากลับไป จนกระทั่งวันนี้ช่วงหัวค่ำ ประมาณ 20.00 น. แม่ได้เดินทางมาที่บ้านหลังเกิดเหตุ และก็มีปากเสียงทะเลาะกับพ่อเหมือนเดิม พ่อมีอาการคุ้มคลั่งจะทำร้ายแม่ และใช้อาวุธมีดข่มขู่และจับแม่ และลูกๆ เป็นตัวประกันไว้ภายในบ้าน น้องสาวได้แชทออกมาขอความช่วยเหลือ ว่าพ่อได้ใช้อาวุธมีดข่มขู่และจะทำร้ายแม่ตนเองจริงๆ จึงรีบมาดูพบว่า แม่ถูกพ่อขังไว้อยู่ด้านในบ้าน โดยใช้ผ้าขาวม้าผูกประตูหน้าต่างไว้ เพื่อไม่ให้แม่หนีออกมาด้านนอก ซึ่งตอนนี้ตนเองรู้สึกเป็นห่วงแม่และน้องมาก เนื่องจากทราบว่าพ่อได้เสพยาบ้าไปเมื่อวานนี้ 60 เม็ดแล้ว อาจจะเกิดอาการคุ้มค่าและระแวงว่าแม่จะหนีไปอยู่ที่อื่น

นายพรณรงค์ ด้วงเพ็งรัก อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครพุทไธสวรรย์ผู้ที่ได้รับแจ้งเหตุเล่าให้ฟังว่า ลูกสาวของผู้ก่อเหตุได้แชทไปขอความช่วยเหลือ โดยส่งภาพคนในบ้านและภาพประตูหน้าต่างที่ถูกผ้าขาวม้าผูกมัดไว้ ไม่ให้คนในบ้านออกมาข้างนอก ตนเองจึงได้นำกำลังเข้ามาตรวจสอบ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุพบว่า ภายในบนบ้านถูกปิดไฟมืดสนิท มีเสียงจากคนภายในร้องขอความช่วยเหลือออกมา จึงพยายามเขย่าประตูแต่ก็ไม่สามารถเปิดได้ และพ่อก็ด่าทอข่มขู่หากใครเข้ามาใกล้ก็จะแทงให้หมด จึงถอยออกมาและประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจจุดเกิดเหตุ เวลาผ่านไปนานกว่า 1 ชั่วโมง พ.ต.ท.ประเสริฐ รัศมี สวป.สภ.นครหลวง และนายสุเทพ บุญแจ้ง พยายามเข้ามาเกลี้ยกล่อมและพูดคุยกับนายชาลีให้เปิดประตูบ้านออกมาพูดคุยด้านนอก แต่นายชาลีตะโกนออกมาว่า ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถอยออกไปให้หมด และรับปากจะไม่ทำร้ายคนในบ้าน

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพยายามต่อรองให้นายชาลีเปิดประตู เพื่อตรวจสอบว่าคนที่อยู่ภายในบ้านปลอดภัยดีหรือไม่ แต่นายชาลีก็ไม่ยอมเปิดประตูออกมา เพราะกลัวว่าจะถูกจับ พร้อมยอมรับว่ามีการเสพยาบ้าจริง และจะขอโอกาสเข้าบำบัด แต่ก็กลัวว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ และไม่ได้กลับมาเจอลูกเมีย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รับปากว่าจะให้นายชาลีเข้าโครงการบำบัดยาเสพติด แต่นายชาลีก็ไม่ยอมเปิดประตูออกมา พร้อมข่มขู่ ถ้าเกิดเห็นเงาใครก็พร้อมที่จะใช้มีดปาดคอลูกชายคนเล็กทันที เวลาผ่านไปกว่า 5 ชั่วโมง การเกลี้ยกล่อมไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่ตำรวจกลัวว่า ตัวประกันจะไม่ปลอดภัย จึงยอมนำกำลังถอยออกมาด้านนอก พร้อมตรึงกำลังเพื่อรอดูสถานการณ์ หวังให้นายชาลีพูดจารู้เรื่องและสงบสติอารมณ์ให้เย็นลงกว่านี้ จึงจะเข้าไปเจรจาเกลื้ยกล่อม

คืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 7.00 น.วันที่ 3 มกราคม 2566 กำนันตำบลปากจั่น ญาติและเพื่อนสนิท ของนายชาลี ได่เดินทางมี่ที่เกิดเหตุ เพื่อเจรจากับนายชาลี ใช้เวลานานเกือบ 30 นาที ทำให้นายชาลีไว้ใจ ยอมออกจากบ้าน กำนันและตำรวจพาขึ้นรถออกไปสงบสติอารมณ์ ทำให้ตัวประกันปลอดภัยทุกคน ตำรวจได้นำตัวนายชาลีมาพูดคุย พร้อมตรวจสารเสพติดและเตรียมนำตัวผู้ก่อเหตุ เข้าสู่กระบวนบำบัดตามประสงค์ของผู้ก่อเหตุ

พ.ต.อ.นิวัฒน์ การสิทธิ์ ผกก.สภ.นครหลวง เปิดเผยว่า จากการพูดคุยทราบว่า นายชาลีเพิ่งจะเสพสารเสพติดเมื่อ 4-5 วันที่แล้ว เพราะมีปัญหากับภรรยาและลูก จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่ามีอาวุธร้ายแรง ซึ่งตอนนี้เขารับว่าเสพ พร้อมยินยอมเข้ารับการบำบัดที่ศูนย์บำบัดสารเสพติดของตำบลปากจั่น อำเภอนครหลวง ซึ่งเราจะมีการติดตามพฤติกรรมอย่างใกล้ชิดว่าจะเลิกเสพสารเสพติดหรือไม่ต่อไปในอนาคต

ทีมข่าวอีจัน ได้พูดคุยกับนายชาลี ผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ในสภาพอิดโรยเนื่องจากไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน ยอมรับว่า มีการเสพยาบ้าจริงก่อนวันก่อเหตุได้ 3 วัน โดยเสพไปประมาณ 5-6 เม็ด ในราคาเม็ดละ 30 บาท ที่ทำลงไปเพราะ หวาดระแวงกลัวคนจะมาพรากลูกเมียหนี เนื่องจากที่ผ่านมาทะเลาะกัน เมียได้หนีออกจากบ้านไปหลายวัน พอเมียกลับมาเมื่อคืนจึงจี้ตัวประกันทันที ที่ทำลงไปเป็นการข่มขู่เท่านั้นและไม่คิดจะทำร้ายลูกเมียจริง เพียงต้องการอยากจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับลูกเมีย ไม่ให้ใครมาพรากจากกัน ซึ่งขณะนี้ ทุกคนปลอดภัยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่บอกว่ามีการเสพยาบ้าไปจำนวน 60 เม็ด นั้นไม่จริง ตนเองพูดเฉยๆเพื่อให้ญาติรู้ว่าตนเองเสพยาบ้าและน็อค เพื่อต้องการเรียกร้องความสนใจ และให้ญาติโทรบอกภรรยาแล้วกลับมาดูแลเท่านั้น ตอนนี้ตนเองขอโอกาสปรับตัวใหม่ยอมเข้าโครงการบำบัดยาเสพติดเพื่อให้หายดีแล้วอยากจะกลับไปใช้ชีวิตที่มีความสุขกับครอบครัวอีกครั้ง

คลิปแนะนำอีจัน
ธุรกิจจีนเทา เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว