จากกรณี คลิปฉาว ครูชายเมา ควงสปาต้าจิกหัวครูสาว กลางลานจอดรถในโรงเรียนแห่งหนึ่ง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา ว่อนเน็ต ครูสอนยันไม่ทราบสาเหตุที่ครูชายทำ หวั่นโดนทำร้ายซ้ำ วอนต้นสังกัดตั้งกรรมการสอบ
คลิป ครูชายเมา ควงสปาต้า จิกหัวหัวครูสาว ว่อนเน็ต – บุรีรัมย์ล่าสุดวันนี้ (10 พ.ย. 65) นายทวี ทะนอก ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ได้ออกมากล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า หลังจากได้รับรายงานจาก นายนพนรรจ์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็น ผอ.โรงเรียนเกิดเหตุ ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงแล้ว
โดยนายทวี ผอ.เขตการศึกษาฯ เขต1 ยังกล่าวด้วยว่า ตั้งแต่มารับตำแหน่ง ตนได้ย้ำนโยบายหลักไปแล้วว่า ให้ครูรักกัน ให้ดูแลกัน เพราะครูต้องทำงานร่วมกันกับหลายฝ่าย ทั้งผู้ปกครอง ชาวบ้าน มันจะขาดส่วนหนึ่งส่วนใดไปไม่ได้ มันจะต้องไปด้วยกันทั้งระบบ มีอะไรขอให้คุยกัน จรรยาบรรณ ของครู 8 ข้อ ต้องท่องให้ขึ้นใจ
และเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ หากพบการกระทำผิดก็จะลงโทษไปตามความผิดที่เกิดขึ้น
นายนพนรรจ์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็น ผอ.โรงเรียนเกิดเหตุ เผยว่า ครูชายและครูสาวเป็นญาติกัน เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของเหตุการณ์นี้ ทราบเพียงช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงหลังเวลาราชการเท่านั้น
ด้านครูชาย เป็นครูสอนที่โรงเรียนแห่งนี้มา 30 ปี ตนและชาวบ้านไม่เคยเห็นครูชายดื่มเหล้าเลย
และเนื่องจากวันที่เกิดเหตุ ตนไม่ได้รับเรื่องที่มีครูวิวาทกันเลยกระทั่งมีคลิปถูกเผยแพร่ลงโซเชียล ประกอบกับวันนี้ ครูทั้ง 2 คนลาไม่ได้มาโรงเรียนจึงยังไม่มีโอกาสได้สอบถาม
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุครูสาวยังไม่ได้เข้าแจ้งความ แต่เป็นครูชายอีกคนซึ่งเป็นญาติของครูสาวเช่นกันที่เข้าแจ้งความที่ สภ.หนองสองห้อง ตำรวจจึงเรียกครูชายคู่กรณีครูสาวมาสอบปากคำ ก่อนตั้งข้อหา 4 ข้อหา ได้แก่
-เมาสุราประพฤติตนวุ่นวาย
-พกพาอาวุธมีดไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
-ข่มขู่ผู้อื่นให้ให้ตกใจกลัว
-ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ
หลังตำรวจสอบปากคำเสร็จตำรวจก็ปล่อยตัวครูชาย
ครูชายไม่สลด ถูกปล่อยตัวแล้วเดินทางไปหาครูชายที่แจ้งความตนถึงโรงเรียน
ครูชายกร่างชี้หน้าด่าครูผู้แจ้งความพร้อมข่มขู่
“มึงไปแจ้งความทำไม เดี๋ยวกูจะเอาให้ตายตรงนี้แหละ หรือจะให้กูยิง”
นักเรียนที่กำลังนั่งเรียนกับครูชายผู้แจ้งความลุกวิ่งหนีกันด้วยความกลัว
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบต่อจิตใจเด็กนักเรียนไม่น้อย เพราะมีนักเรียนที่เห็นเหตุการณ์และปีนกำแพงไปช่วยครูสาวด้วย คงต้องรอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นก่อน จึงจะได้คำตอบถึงสาเหตุที่ครูชายดังกล่าวทำลงไป
อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้สอบปากคำผู้เสียหาย ผู้ก่อเหตุ และพยานแวดล้อมไปแล้ว 5 ปาก ตอนนี้รอเพียงเอกสารจากทาง โรงพยาบาลเพื่อประกอบยืนยันว่า คู่กรณีได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานต่อไป เบื้องต้นตำรวจคาดน่าจะสรุปสำนวนส่งอัยการได้ในสัปดาห์หน้าเพราะคดีไม่ได้ซับซ้อนมากนัก