แม่ร้องสื่อ ครูทำโทษเด็กแขนเป็นแผล ตกดึกเด็กผวา นอนร้องไห้

เกิดขึ้นอีกแล้ว ความรุนแรงในโรงเรียน แม่ร้องสื่อ ครูทำโทษเด็กแขนเป็นแผล ตกดึกเด็กผวา นอนร้องไห้

เกินไปไหม ครูทำโทษเด็ก ป.3 ใช้กำปั้นถูแขนถลอก!

เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 21 ก.ค. 66 ผู้สื่อข่าว เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่ง ย่าน อ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง หลังผู้ปกครองส่งข้อมูลมาร้องเรียนว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 66 ลูกชายอายุ 8 ขวบ ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.3 ถูกครูชายสอนวิชาการงานทำโทษ ด้วยการเอา กำปั้นมาถูกับแขนแรงจนเป็นแผลถลอก!

ด.ช. เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่กำลังเรียนวิชาการงานกับครูชายรายหนึ่ง ตนหันไปคุยกับเพื่อนโต๊ะข้างกัน ครูชายเห็นจึงทำโทษตนและเพื่อน ครูใช้กำปั้นถูขยี้ซ้ำๆ ไปมาที่แขนขวา ด.ช. เริ่มรู้สึกปวดแสบปวดร้อน ครูถูอยู่นานจนเห็นว่าหนังกำพร้าเริ่มมีลอยถลอกและบวมแดง จึงพาไปทายาที่ห้องพยาบาล ครูยังบอกอีกว่า สาเหตุที่แขนตนถลอกเพราะหนังกำพร้าบางแต่เพื่อนอีกคนหนังหนากว่าจึงไม่เป็นไร

ด้านนางสาวจิรชยา อายุ 44 ปี แม่ของ ด.ช. เล่า วันเกิดเหตุ ตนไปรับลูกที่โรงเรียนตามปกติ เห็นแผลบนแขนของลูกคล้ายถูกน้ำร้อนลวก ถามลูกว่าโดนอะไร เมื่อลูกเล่าจบ จึงพาลูกไปหาครูประจำชั้นทันทีพร้อมกับไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อจะขอคุยกับครูชายวิชาการงาน แต่ครูชายกลับไปแล้ว จึงให้ครูประจำชั้นนัดคุยกับ ผอ.โรงเรียนให้ในวันถัดไป

 21 ก.ค. 66 เมื่อครอบครัว ด.ช. ไปถึงโรงเรียน ผอ.ทำเพียงยกมือไหว้ขอโทษแทนครูชาย บอกว่า ขณะนี้ได้พักงานครูชายรายดังกล่าวแล้ว และขอให้ผู้ปกครองลบไลฟ์ออกจากเฟซบุ๊ก

ด้านนายไตรวิช อายุ 47 ปี บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนไม่ได้ต้องการจะเรียกร้องอะไรจากทางโรงเรียน และไม่ประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดี หากแจ้งความไปครูก็จะมีประวัติเสีย และยังส่งผลกับอนาคตของครูด้วย แต่อยากให้ทางโรงเรียนรับผิดชอบ โดยการย้ายครูไปสอนวิชาอื่นแทน หรือไปทำหน้าที่อื่น เนื่องจากตนคิดว่าครูยังมีสภาพจิตใจไม่พร้อม ขอให้กลับไปทบทวนปรับปรุงทัศนคติให้สภาพจิตใจให้พร้อมมากว่านี้ หากมียังมีพฤติกรรมแบบนี้อยู่ยิ่งจะสร้างความหวาดกลัวให้กับเด็ก

 ล่าสุดวันนี้ (24 ก.ค. 66) อีจันติดต่อไปหาแม่ของ ด.ช. เล่าว่า หลังเกิดเหตุยังไม่เคยได้คุยกับครูชายเลย แถมลูกชายวัย 8 ขวบของเธอยังมีอาการระแวง ผวา ร้องไห้ ละเมอกลางดึกเอากำปั้นมาถูแขนเธอด้วย แต่เนื่องจากลูกชายเป็นเด็กที่รักเรียนมาก ประกอบกับรู้ว่าครูชายถูกพักงานอยู่ จึงยังไปเรียนตามปกติแม้จะยังแอบกลัวอยู่บ้าง

ทั้งนี้ ในเวลา 15.30 น. ทางโรงเรียนได้นัดให้ผู้ปกครอง ด.ช. เข้าไปคุยอีกครั้งถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งทางผู้ปกครองเองยังทราบรายละเอียดว่าจะคุยในเรื่องใดบ้าง

โรงเรียน… บ้านหลังที่2 ของนักเรียน  

ครู… พ่อแม่คนที่2 ของนักเรียน 

โรงเรียนจึงควรเป็นสถานที่ที่ปลอดภัย ครูควรเป็นตัวอย่างที่ดี ที่พึ่งให้กับเด็กๆ ได้ในระหว่างที่เขากำลังห่างอกพ่อแม่ ความรุนแรง ประสบการณ์เลวร้ายจึงไม่ควรเกิดขึ้นในโรงเรียน

คลิปอีจันแนะนำ
ใคร…อยู่ที่หัวเตียง?