จากกรณีพลเมืองดี แจ้งกับทางมูลนิธิปวีณาฯ ว่ามีเด็กอายุ 8 ขวบโดนทำร้ายที่คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านประเวศ
เด็ก 8 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงใจร้าย ทุบตี ทำร้ายร่างกายวันนี้(17 ส.ค. 65) มูลนิธิปวีณา พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประเวศ ได้เดินทางไปที่คอนโดดังกล่าว เมื่อขึ้นไปถึงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เคาะประตูเรียกเจ้าของห้องให้ออกมา โดยนางสาวแก้ว (นามสมมติ) อายุ 25 ปี เเม่ของเด็กชายเอ้ ได้สวมเสื้อกล้ามก่อนจะออกมาพบปะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยนางปวีณา ได้ ขอให้นำตัวเด็กชายเอ้ ออกมาก่อน
ทีมข่าวได้สังเกตว่า เด็กชายมีสภาพผอมโซ ตามร่างกายมีแต่รอยเขียวช้ำ และบาดแผลทั้งรอยเก่า และใหม่ให้เห็น นอกจากนั้นยังมีบาดแผล บริเวณใบหน้าเเถวตาซ้าย มีรอยเลือดออกอยู่ จากการสอบถามเด็กชายบอกว่า ถูกพ่อกระทืบ โดยใช้เท้ากระทืบวันนี้ แต่แม่เด็กอ้างว่า เป็นแผลที่เด็กใช้นิ้วเกาจนเลือดออก
นางสาว แก้ว ยอมรับว่ามีการตีลูกชายวัย 8 ขวบ จริงโดยใช้ไม้แขวนเสื้อตี เเต่ไม่ได้รุนเเรงอะไร เป็นการตีเพื่อสั่งสอน ซึ่งสาเหตุที่ตีนั้นเกิดจากเด็กชายดื้อ และชอบพูดไม่เพราะ อย่างเช่น “ซื้อข้าวมาให้แดกหน่อย” ชอบเถียง เชอบโกหก อีกทั้งยังชอบจุดไฟแช็กเล่น อย่างเมื่อ 2-3 วันก่อนก็มีการจุดไฟแช็กเผากระดาษเล่นภายในห้องพัก รวมถึงในอดีตเด็กชายเคยไปอยู่ที่บ้านพักของญาติที่จังหวัดอยุธยาก็เคยมีการจุดไฟแช็กเผาบ้านจนวอดทั้งหลังมาแล้ว
ในส่วนบาดแผลที่ใบหน้าของลูกเกิดจากการที่ลูกเกาเองจนทำให้เลือดออก หรือบางครั้งลูกก็ลื่นล้มในห้องน้ำตนไม่มีเงินพาลูกไปรักษาที่โรงพยาบาล เพราะไม่ได้ทำงาน และไม่ได้พาลูกเข้าเรียนที่โรงเรียน เพราะช่วงที่ลูกถึงวัยที่จะต้องเข้าโรงเรียนตนเองติดคุกในคดีลักทรัพย์ เเต่ตนไม่ได้ทำ เเต่ถูกพ่วงไปด้วย เเละเพิ่งออกจากคุกมาเมื่อปี 64 ระหว่างที่ตนเองติดคุก ลูกก็อยู่กับน้องชาย
ตนยืนยันว่าเคยมีการพูดสั่งสอนลูกแล้วแต่ลูกไม่เชื่อฟังทำให้ต้องสั่งสอนโดยการตี แต่ทุกครั้งที่ตีตนรู้สึกเสียใจและรู้สึกว่ารุนเเรงเกินไปสำหรับเด็ก 8 ขวบส่วนการที่มูลนิธิ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมารับลูกของตนไปเลี้ยงดูนั้นตนขอปรึกษากับทางครอบครัวก่อน แต่ก็อยากให้รับไปเพราะอยากให้ลูกมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ อยากให้ลูกได้เรียนหนังสือด้วย ตนไม่ได้ปกป้องแฟนหนุ่ม เรื่องนี้ยอมรับว่ากังวลว่าจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายตามพรบ.คุ้มครองเด็ก ซึ่งหากลูกไปอยู่กับเจ้าหน้าที่แล้วมีอนาคตที่ดีกว่าอยู่กับตน ตนก็ยินดีที่จะให้ลูกไป
ด้านนายเบนซ์ เปิดเผยว่า ตนคบหา กับเเม่ของเด็กประมาณ พ.ย. 64 หลังจากออกจากคุกมา เเละก็เลี้ยงลูกมาตั้งเเต่ตอนนั้นตนเองตีลูกจริงแต่ด้วยเพราะว่าเป็นคนที่เสียงดังทำให้เหตุการณ์ดูรุนแรงมากขึ้น บางครั้งก็ใช้มือตีบางครั้งก็ใช้ไม้เเขวนเสื้อตีช่วงบริเวณขาหรือน่อง ซึ่งจำนวนการตีในแต่ละครั้งก็ขึ้นอยู่กับความดื้อของลูกยืนยันว่าไม่ได้ใช้ความรุนแรงเเละไม่เกินกว่าเหตุ เพราะตนสั่งสอนลูกในฐานะพ่อเท่านั้น อีกทั้งลูกชายยังเคยจุดไฟเผาบ้านมาเเล้ว ตนเป็นคนสูบบุหรี่ภายในห้องพักทำให้กังวลว่าไฟจะไหม้ห้องเเละลุกลามไปยังเพื่อนบ้าน
บางครั้งตนก็เล่นกับลูกเสียงดัง จึงอาจทำให้เพื่อนบ้านเข้าใจผิด ว่าตนดุลูก เเต่ตนก็ไม่สามารถห้ามความคิดใครได้ ยืนยันว่าตนก็รักลูก เเม้จะไม่ใช่ลูกเเท้ๆ ก็ตาม ส่วนร่องรอยตามแขนและขาของลูกนั้นตนใช้ไม้แขวนเสื้อตี เเล้วเด็กเอามือมาบัง ทำให้มีรอยที่เเขน ตอนเด็กๆ ตนเองก็เคยโดนไม้แขนเสื้อตีแต่ก็ไม่มีรอยแดงมากขนาดนี้ยืนยันว่าไม่ได้ใช้ความรุนแรงจริงๆ
ตอนที่ตีตนมีสติครบถ้วน ยืนยันว่าไม่ได้มีการเสพยาเสพติดขณะตีลูก มีเพียงการเคี้ยวใบกระท่อมและสูบกัญชา เนื่องจาก กัญชาเปิดเสรีเเล้ว ตนไม่ได้ผิดอะไร เเต่ตนไม่ได้กินทุกวัน กินเฉพาะตอนสังสรรค์เท่านั้นยืนยันไม่มีเรื่องยาเสพติดแน่นอนพร้อมกับท้าให้ตรวจปัสสาวะได้เลยตนยอมรับว่าในอดีตเคยติดคุกเรื่องคดียาเสพติดมา 3 ครั้ง เเละบำบัดอีก 1 ครั้ง ติดคุกบ่อย ไม่อยากเข้าไปอีก เพราะข้างในมันน่าเบื่อ ตอนนี้จึงเลิกยาไปนานเเล้ว
หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวพ่อเลี้ยงและแม่ของเด็กไปสอบปากคำเพิ่มเติม และจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
คลิปแนะนำอีจัน
อาหารกลางวัน หรือของเหลือ?