สุดสลดสาวน่านกินยาฆ่าตัวตายหวังหนีความอายหลังชายขายสมุนไพรลวงขายยาก่อนพาเข้าโรงแรม ต่อมาส่งรูปเย้ยครอบครัว ทำเธออับอายต้องตัดสินใจกินยาฆ่าตัวตาย
ก่อนลาตายทางไลน์บอกแม่ขอโทษที่ทำให้ครอบครัวเสียชื่อเสียง ล่าสุดเด็กสาวสิ้นใจแล้ว ส่วนอดีตผู้ใหญ่บ้าน คาดพรุ่งนี้ ถูกออกหมายเรียก
คดีนี้เกิดขึ้นกับสาวน่านชาวม้งผู้โชคร้าย เธออายุเพียง วัย 22 ปี แต่งงานกับหนุ่มม้งด้วยกันเมื่อ 2 ปีก่อน ครอบครัวอยู่กินรักใคร่กันดี
แต่ไม่นานมานี้ เธอมีอาการปวดหลัง จึงเข้าไปหาซื้อยาในเฟซบุ๊ก และได้รู้จักกับ อดีตผู้ใหญ่บ้าน ในจ.ตาก ชื่อ นพดล อ้างมียาสมุนไพรขาย
ในวันที่ 14 ก.ค.2561 สาวน่านนัดกับแม่จะไปทำบุญสะเดาะเคราะห์วันเกิดที่ จ.พะเยา สามีของเธอไปส่งเธอขึ้นรถตู้เพื่อไปยังบขส.ใน อ.เมือง ก่อนหารถไปพะเยา แต่ใน วันนั้นหลังส่งเธอแล้วก็ติดต่อภรรยาไม่ได้ โทรเข้ามือถือของภรรยาสายก็จะโอนมา ที่โทรศัพท์ของสามีทุกครั้ง
แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งมีผู้ชายโทรเข้ามา ซึ่งเป็นการโอนจากเบอร์ภรรยาของเขา สามีจึงถามว่า เป็นใคร อยู่ที่ไหน ปลายสายตอบแค่ว่า อยู่พะเยา
แม่ภรรยาซึ่งอยู่ที่จ.น่านก็ร้อนใจ เพราะผ่านไป 1 คืน แล้วยังติดต่อลูกสาวไม่ได้ พอทราบเรื่องโทรศัพท์ถูกโอนสายจากลูกเขย จึงไปติดต่อศูนย์ของเอไอเอส เพื่อปลดล็อคการโอน
คราวนี้ก็เริ่มโทรศัพท์ไปที่เบอร์ลูกสาวได้ และได้คุยกับลูกสาว ลูกตอบสั้นๆ แค่ว่า อยู่กับเขา แม่จึงขอคุยกับเขาหน่อย ก็ทราบชื่อผู้ชายว่า นพดล และบอกให้นายนพดลพาลูกสาวมาส่งที่บ้าน ตอนนั้นนายนพดลไม่ยินยอม
น้องสาวจึงบอกให้ พี่สาวถ่ายทะเบียนรถส่งมาให้ เมื่อมีหลักฐาน จึงขู่อีกครั้งว่า ถ้าไม่พามาส่งที่บ้านในจ.น่าน จะแจ้งความ นายนพดลจึง ตกลง
และเมื่อเดินทางมาถึง จ. น่านก็นัดเจอกันที่ บขส. และทราบว่า นายนพดล เป็น ชาวม้งเช่นกัน แม่และสามีของสาวน่านจึงบอกให้ นายนพดลไปเจรจากันที่บ้าน เพื่อถามว่า มันเกิดอะไรขึ้น ซึ่งตามจารีตของชาวม้ง เรื่องแบบนี้เรียกว่า “ผิดผี” ต้องเชิญผู้ใหญ่ของสองตระกูลมาคุยกันเพื่อตกลงในความผิด
แต่ในขณะที่คุยกัน ทั้งนายนพดลและสาวน่าน ต่างยืนยันว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แค่ไปซื้อยาสมุนไพร และนายนพดลบอกจะพาไปส่งที่จ.พะเยา แต่พอไปถึงแล้ว ตามหาแม่ไม่เจอ จึงต้องนอนค้าง 1 โดยไม่มีอะไรเกินเลย
เมื่อทั้งสองยืนยันเช่นนั้น ทางครอบครัวของสาวน่านจึงปล่อยตัวนายนพดลกลับไป แต่ สาวน่านยังมีท่าทีซึมผิดปกติ
คืนนั้นที่บ้านสาวน่านมีการฉลองวันเกิดของเธอและน้องระหว่างนั้น เธอให้น้องสาวดูข้อมูลเฟซบุ๊กของนายนพดล
ซึ่งน้องของเธอก็ เป็นเพื่อนทางเฟซบุ๊กของชายคนนี้เช่นกัน ขณะนั้นเองก็มีภาพคู่ใน รร. ที่เห็นเธอ อยู่กับชายคาดว่า เป็นนายนพดล ส่งมาทางแมสเซนเจอร์
โดยส่งถึงน้องสาวของเธอ น้องสาวจึงเอาไปให้แม่ดู แม่จึงคาดคั้นเธออีกครั้งว่า มีอะไรกันหรือไม่ เธอก็ยังยืนยันว่าไม่มีและรีบเก็บเสื้อผ้ากลับลำปางพร้อมสามีในวันรุ่งขึ้น
17 ก.ค. 61 เมื่อเดินทางถึง ลำปางประมาณเที่ยง เธอส่งข้อความขอโทษแม่มาทางไลน์ ที่ทำให้ครอบครัวต้องอับอาย ข้อความคล้ายสั่งเสีย
ซึ่งแม่ไม่ทันได้อ่าน เวลาผ่านไปจนกระทั่งบ่ายเศษ แม่ก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกเขย ว่า ลูกสาวกินยาฆ่า แมลงหวังฆ่าตัวตายแล้ว ตอนนี้อยู่ รพ.
การตัดสินใจของลูกสาวทำให้แม่เชื่อว่า ต้องมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นและน่าจะเกี่ยวข้องกับชายที่ชื่อ นพดล
ลุง ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆของแม่ รีบเดินทางจาก กทม.รุดไปเยี่ยมหลานสาว หลังทราบเรื่องเขาว่า มันแปลกและคิดว่าต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากล
4 วันต่อมา เด็กสาวฟื้นขึ้นมาได้และสามารถพูดได้เล็กน้อย ปากเธอบวม คอเธอบวม เพราะพิษจากยาฆ่าแมลงทำลายปากและลำคอ ลำไส้รุนแรงพอสมควร การคุยกันจึงต้องใช้ภาษามือ
ลุงบอกกับหลานสาวว่า “ลุงมาแล้ว มาอยู่ที่นี่แล้ว มีอะไรที่ลุงช่วยได้ลุงจะช่วย อย่าได้ห่วง” แล้วลุงถามว่า “โรงแรมที่เกิดเหตุ ชื่อ อะไร” หลานสาวก็เขียนให้ใส่กระดาษน้อย
ลุงถามอีกกว่า “อยากให้ลุงแจ้งความจับมันมั้ย” เด็กสาวพยักหน้า
และเมื่อเอารูปนายนพดลในเฟซฯมาให้ดู เธอก็ชี้ว่า “ใช่”
ลุงถามต่อว่า “มีผู้ชายกี่คน” หลานชูนิ้ว “4 นิ้ว”
ถามต่อว่า “รู้จักกี่คน” หลานชู “2 นิ้ว”
ลุงจึงนำเรื่องนี้ไปแจ้งความ แต่ตำรวจลงความเห็นว่า น่าจะเป็นเรื่องชู้สาว ไม่มีองค์ประกอบเข้าข่ายความผิดทางอาญา จึงทำแค่ลงบันทึกประจำวัน
ต่อมาญาติร้องเรียนสื่อต่างๆ จนกระทั่ง ตำรวจ สภ.ลำปางเข้ามาสอบปากคำที่รพ. และตรวจสอบหาข้อเท็จจริง
เบื้องต้นวันนี้ไปตรวจสอบที่โรงแรมดังกล่าวแล้ว มีพยานเห็นว่า เด็กสาวเดินคลุมหน้ามากับชายชื่อนพดลจริง ส่วนมีคนอื่นมีหรือไม่ ไม่ทราบ
จากนั้นตำรวจก็ตรวจสอบไล่ตั้งแต่ช่วงเธอขึ้นรถตู้และเส้นทางที่เด็กสาวถูกพาไปเอายาสมุนไพร จนกระทั่งถึงโรงแรม
ล่าสุดเด็กสาวเขียนจดหมายน้อยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ตำรวจอ่านแล้ว
พรุ่งนี้ติดตามต่อว่า หมายเรียกนายนพดล จะออกหรือไม่
ส่วนอาการของเด็กสาว วันนี้ มีแต่ทรุดลง เนื่องจากปริมาณยาที่กินเข้าไปมากเกิน ทำให้มีฤทธิ์ทำลายอวัยวะภายใน ซึ่งญาติยอมรับว่า ต้องทำใจ แต่อยากให้ความจริงนี้เปิดเผย ถ้ามีคนผิด ก็ต้องให้รับโทษ
ล่าสุดเมื่อเวลาทุ่มครึ่งญาติของเธอแจ้งว่า เธอเสียชีวิตแล้ว
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของเธอด้วย “ช่วยผมด้วย ช่วยลากคอคนผิดมารับโทษด้วย” นี่คือคำขอของญาติหลังเธอเสียชีวิต