สุดเหี้ยม! ชุมพรฆ่าโหด 4 ศพ ไทย-เมียนมา จ่อยิงหัว-เผาทั้งคนทั้งรถ

ชุมพรฆ่าโหด 4 ศพ ไทย-เมียนมา กลางป่าสวนยาง จ่อยิงหัว-เผาทั้งคนทั้งรถ บางรายถูกยิงขณะหลับ แม้แต่หมายังไม่เว้น หลังฆ่าขโมยรถเหยื่อหลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้าย

โหดเหี้ยม พบศพถูกฆ่า 4 ศพ สุนัขอีก 1 ตัว กลางสวนยาง จ.ชุมพร

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 16 ก.ค.66 พ.ต.ท.พนัส หมุนวงศ์ สว.(สอบสวน) สภ.นาสัก จ.ชุมพรได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันในพื้นที่หมู่ 19 (บ้านตาหลัด) ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 รายตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจชุมพร หน่วยอาสากู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะเขตเขาทะลุ เขตสวีเร่งตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุห่างจากจากถนนสายเอเซีย 41 ประมาณ 10 กม. บริเวณริมถนนเล็กๆ ในหมู่บ้านติดสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน พบร่างผู้เสียชีวิตรายแรกทราบชื่อคือ นายประยงค์ อายุ 60 ปี สภาพนอนคว่ำหน้า ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าบริเวณลำตัวและศีรษะกว่า 10 รู โดยศพถูกปิดคลุมด้วยทางมะพร้าวแห้ง ห่างจากศพผู้เสียชีวิตประมาณ 20 เมตร เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนลูกซองสีขาวตกอยู่จำนวน 2 ปลอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

ศพที่ 2 ห่างจากศพแรกประมาณ 200-300 เมตร เป็นชายยังไม่ทราบชื่อและอายุแต่คาดเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้าเบ้าตาขวาเป็นรูโบ๋ขนาดใหญ่ สภาพนอนตะแคงขาคล่อมอยู่กับรถจักยานยนต์ฮอนด้าเวฟ ทะเบียน 1กก 5811 ชุมพร ไม่ทราบสีเนื่องจากถูกไฟเผาไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโกทั้งคนทั้งรถ โดยห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบบ้านไม่มีเลขที่ซึ่งทราบว่าเป็นที่พักของแรงงานชาวเมียนมาไม่พบผู้อยู่อาศัยบริเวณหน้าพบลูกสุนัขนอน ตายอยู่ 1 ตัว เริ่มมีแมลงวันตอมส่งกลิ่นเหม็นเน่าหึ่ง

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่พบศพที่ 3 ทราบชื่อคือ นายน้อง อายุ 34 ปี เป็นคนงานตัดยางชาวเมียนมานอนตะแคงสวมเสื้อยืดสีดำ ใส่กางเกงวอร์มขายาวสีดำ สภาพนอนตะแคงจมกองเลือดแห้งกรังอยู่บนแครไม้บริเวณหน้าบ้านปลูกสร้างเป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่ท่ามกลางสวนสวนยางพาราเชิงเขาห่างไกลบ้านคน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าศีรษะและลำตัวมีบาดแผลหลายรู โดยใกล้ศพพบหมอนรองปลอกกระสุนจำนวน 1 ชิ้น เจ้าหน้าเก็บไว้เป็นหลักฐานและตรวจสอบ

และศพที่ 4 ทราบชื่อคือ นายนาย อายุ 51 ปี สวมเสื้อยืดสีดำ ใส่กางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ ถูกยิงด้วยอาวุปืนชนิดเดียวกัน เข้าที่ศีรษะจนกะโหลกเปิดเห็นมันสมองนอนหงายจมกองเลือดอยู่บนที่นอน ใกล้ศพพบกระสุนลูกปรายตกอยู่บนที่นอนจำนวน 1 เม็ด ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุภายในบ้านและนอกบ้านไม่พบร่องรอยการต่อสู้พบเพียงรถจักยานยนต์เก่า และรองเท้าของใช้อื่นยังอยู่ตามปกติ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุแล้วได้ให้กู้ชีพกู้ภัยนำร่างทั้ง 4ราย ส่งโรงพยาบาลสวีเพื่อชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากการสอบสวนจากพยานแวดล้อมและพยานบุคคลที่เป็นญาติของ นายประยงค์ผู้เสียชีวิต เบื้องต้นสันนิฐานว่า ผู้ก่อเหตุคือชายรายหนึ่งซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านรู้กันดีว่ามีพฤติกรรมที่กร่างติดยาเสพติดน่าจะมีอาการหลอนยาเคยทุบตีพี่สาวของตัวเองด้วยและชอบพกอาวุธปืนข่มขู่แรงงานต่างด้าวที่มาทำงานในพื้นที่มาเป็นเวลานาน อดีตเคยทะเลาะกับนายประยงค์มาก่อน เรื่องปัญหาที่ดินทำกิน แต่ปัจจุบันก็ดีกันแต่ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมกลับมายิงกันตาย

ญาตินายประยงค์ เล่าอีกว่า ก่อนเกิดเหตุพี่ชายตนซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องได้ขับรถยนต์กระบะออกจากบ้านมาต่อน้ำเข้าใช้ในบ้าน หลังจากนั้นก็หายไปตั้งแต่เมื่อคืนวาน (15 ก.ค.) ที่ผ่านมา จนกระทั่งได้ออกตามหามาพบเจอเมื่อเวลาประมาณ 07.40 น. วันนี้ (16 ก.ค.) ส่วนรถยนต์กระบะของนายประยงค์หายไป หลักเกิดเหตุคาดว่าคนร้ายรายนี้ใช้ขับหลบหนีออกนอกพื้นที่

ด้านนายบุญเลิศ อายุ 59 ปี เจ้าของสวนยางพาราที่เกิดเหตุ ที่คนร้ายยิงคนงานตายคาบ้าน 2 ศพ เล่าว่า นายน้องคนที่นอนตายอยู่หน้าบ้านเป็นลูกน้องของตนตัดยางรายได้แบ่งครึ่งกัน เป็นคนขยันทำงาน ทำงานดี ไม่เที่ยว ปกติอยู่ทำงานคนเดียวถ้าวันไหนทำไม่ไหวงานเยอะพี่ชายคนที่ถูกยิงตายในบ้านจะมาช่วยเสร็จงานก็กลับ

ขณะเกิดเหตุตนไม่อยู่เมื่อทราบว่าว่ามีเหตุก็มาดู รู้สึกเสียใจไม่น่าเกิดเรื่องขึ้น ซึ่งเมื่อ 2 ปีก่อน แรงงานของตนชุดก่อน ยังเคยถูกคนในหมู่บ้านที่ทราบกันดีว่าเป็นใคร มาข่มขู่จะตบด้วยปืนและเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว พี่สาวคนตายโทรศัพท์ไปบอกตนว่าถูกคนไทยขู่อีก ตนจึงโทรหาผู้ใหญ่บ้านมาช่วยพูดคุยจนไม่มีอะไรกันแล้ว แต่ก็ถูกยิงจนได้

ขณะเดียวกัน น.ส.มะลิวรรณ อายุ 44 ปี อสม.ในพื้นที่ ได้รับโทรศัพท์จากนายแหง่ คนงานตัดยางชาวเมียนมา โดยนายแหง่ เล่าให้ฟังว่า ตน ภรรยาและลูกสาววัย 3 ขวบ ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันถูกคนไทยมาขู่ให้ย้ายออกไป ไม่เช่นนั้นจะฆ่าให้ตาย โชคดีพาครอบครัวย้ายหนีออกไปทันไม่งั้นถูกฆ่าตายเหมือนกันตอนนี้ปลอดภัยดี มาอาศัยอยู่กับพี่สาวใกล้วัดนาสัก

ด้าน พ.ต.อ.จักรา เสาวคนธ์ ผกก.สภ.นาสัก กล่าวว่า เบื้องต้นสอบถามญาติของผู้เสียชีวิตที่เป็นคนไทยทราบว่ามูลเหตุน่าจะเป็นเรื่องของสวนยางพารา แต่ยังหาข้อสรุปถึงมูลเหตุไม่ได้ต้องรอเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานอีกครั้ง

เบื้องต้นสันนิษฐานการก่อเหตุ ของคนร้ายรายนี้น่าจะมีอาการหลอนยา ประกอบกับเคยตบตีพี่สาวตนเองและมีปัญหาเรื่องสวนยางพารากันมาก่อนกับนายประยงค์ อีกทั้งยังมีพฤติกรรมชอบพกปืนข่มขู่ แรงงานชาวเมียนมาที่มาเป็นลูกจ้างตัดยางพาราในพื้นที่

การก่อเกิดเหตุคาดว่า หลังจากยิงนายประยงค์เสียชีวิตแล้ว ก็ขึ้นไปบนสวนยางเพื่อที่จะไปยิงสามพ่อแม่ลูก แต่ไม่พบตัวเพราะย้ายหนีไปก่อนจึงยิงลูกสุนัขตายแทน หลังจากนั้นไปก่อเหตุยิงคนงานตัดยางของนายบุญเลิศดับ 2 ราย คาบ้านขณะนอนหลับ ก่อนจะกลับลงมาเพื่อหลบหนีแต่ระหว่างทางมาเจอชาวเมียนมาอีกคนขณะขับรถจักยานยนต์คาดมาหาเพื่อนที่ถูกยิงตาย จึงจ่อยิงหัวตามไปด้วยพร้อมจุดไฟเผาทั้งคนทั้งรถ ซึ่งหลังก่อเหตุยิงดับทั้งหมด 4 ศพเสร็จ จึงขับรถของนายประยงค์ผู้เสียชีวิตหลบหนีไป

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.นาสัก และชุดสืบสวนสอบสวนของหน่วยปฏิบัติการพิเศษจังหวัดชุมพร เร่งวางแผนระดมกำลังออกตามล่าตัวผู้ก่อเหตุรายนี้อย่างเร่งด่วนแล้ว