วันนี้ 12 ก.ย. 66 ที่สโมสรตำรวจ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา เดินทางพาเหยื่อเข้าพบ รองผบ.ตร. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก เนื่องจากได้รับแจ้งเคสที่คนไทย ถูกหลอกไปทรมาณที่ต่างประเทศ และถูกหลอกไปค้าประเวณีในดูไบและบาห์เรน รวมถึงเคสสาวคนหนึ่งที่ ตกตึกเสียชีวิตปริศนาในญี่ปุ่น ฝั่งคุณแม่นำหลักฐานเป็นมือถือเข้ามอบบิ๊กโจ๊ก ยัน ไม่เชื่อว่าลูกฆ่าตัวตาย อยากให้บิ๊กโจ๊กช่วยเร่งติดตามคดี
โดยเคสแรกนั้นคือเคสของคนไทย ที่ถูกคนรู้จักหลอกว่าหากไปทำงาน ที่ต่างประเทศจะได้รับเงินเดือนสี่ถึงห้าหมื่น พร้อมอาหารและที่พัก แน่นอนว่า เป็นใครได้ยินแบบนี้ก็อยากจะไปทั้งนั้น เพราะอยากให้คนในครอบครัวสบาย ปรากฏว่าพอไปถึงกลับถูกยึดพาสปอร์ต และถูกขังพร้อมกับบังคับให้ขายตัวชดใช้หนี้ ผู้เสียหายเล่าว่า เหมือนตกนรกทั้งเป็น และได้ทำเรื่องส่งมายังมูลนิธิปวีณา เพื่อขอความช่วยเหลือ ทั้งนี้มูลนิธิปวีณาจึงได้ประสานกับ นายรุธ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล ให้ช่วยเหลือพาผู้เสียหายทั้ง 4 คนกลับไทย
ต่อมาเคสที่ 2 นางปวีณา ได้พาญาติของเหยื่อทั้ง 24 ราย ที่ถูกหลอกให้ไปทำงานเป็นมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซนเตอร์ และถูกทรมานกักขัง หน่วงเหนี่ยว พร้อมคนไทยอีก 300 กว่าคน อยู่ในตึกที่เต็มไปด้วยทหารถือปืน คอยดูลาดเลา หากทำยอดได้ไม่ถึงเป้า ก็จะถูกเรียกค่าไถ่ และถูกขายต่อไปที่อื่น อย่างไรก็ตามคดีนี้ ญาติของเหยื่อได้วอนให้บิ๊กโจ๊ก เร่งพาครอบครัวของตน กลับถึงไทยอย่างปลอดภัย ซึ่งบิ๊กโจ๊กยืนยัน จะทำอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยเหลือคนไทย ที่ถูกหลอกไปทำงานในต่างแดน
และเคสสุดท้าย นางสมพร อายุ 48 ปี ผู้เป็นแม่ของ นางสาวธนพร อายุ 23 ปี ได้นำโทรศัพท์ของลูกสาว เข้ายื่นกับบิ๊กโจ๊ก เนื่องจากลูกสาวของตน เสียชีวิตที่ประเทศญี่ปุ่น
โดยทางตำรวจญี่ปุ่นแจ้งว่า ลูกสาวนั้นพลัดตกตึกจากชั้น 8 คาดว่าเป็นอุบัติเหตุ หรือการฆ่าตัวตาย เพราะบริเวณโดยรอบ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด
ซึ่งนางสมพร ผู้เป็นแม่ ไม่ปักใจเชื่อ ว่าลูกสาวไม่น่าจะมีแรงจูงใจให้คิดสั้นได้ โดยตั้งข้อสงสัยว่าใครคุยกับลูกสาวเป็นคนสุดท้าย เรื่องนี้จึงอยากขอให้บิ๊กโจ๊ก ช่วยประสานการสืบสวนให้คลี่คลาย
อย่างไรก็ดีทั้ง 3 เคสนี้ ล้วนแล้วเป็นเคสที่คนไทย ได้เผชิญความเลวร้ายในต่างแดนทั้งนั้น คงต้องรอความคืบหน้าของทางตำรวจต่อไปครับ
คลิปอีจันแนะนำ
พ่อจ๋าช่วยหนูด้วย ตาข่มขืนหนู