ช่วงที่ผ่านมา มีเสียงบ่นในโลกโซเชียลกันมากมาย ถึงราคาสินค้าหลายๆประเภท ที่พากันปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง วันนี้ อีจัน รวมมาให้แล้ว ว่ามีอะไรบ้าง
เริ่มที่ค่าไฟฟ้า ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า การประชุม กกพ. ที่จะมีขึ้นปลายเดือนก.ค.นี้ มีการคาดการณ์ว่า ค่าไฟฟ้า มีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นอีก เป็นผลมาจากวิกฤติพลังงานโลก ที่เพิ่มสูงขึ้น จากสถานการณ์ความตึงเครียด ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน โดยค่าไฟฟ้าในรอบเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2565 จะเพิ่มขึ้น จาก 23.38 สตางค์/หน่วย เป็น 24.77 สตางค์/หน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 4 บาท/หน่วย และล่าสุดมีกระแสข่าวว่า ค่า FT จะปรับขึ้นในงวด เดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 อีก
ต่อกันที่ราคาก๊าซหุงต้ม
คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติทยอยปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG หรือ ก๊าซหุงต้ม อีกกิโลกรัมละ 1 บาท ตั้งแต่เดือนเมษายน โดยแก๊สหุงต้มขนาด 15 กิโลกรัม จะทยอยปรับราคาขึ้นครั้งละ 15 บาท ตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 และจะปรับเป็น 363 บาทในวันที่ 1 มิถุนายนนี้
ราคาน้ำมันดีเซล
คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติให้ปรับขึ้นราคาดีเซล 1 บาทต่อลิตร มาอยู่ที่ไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร จากเดิมที่ราคาไม่เกิน 32 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่เมื่อวานนี้ (31 พ.ค. 65) ขณะที่ราคาน้ำมันในตระกูลเบนซิน ก็ปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวการปรับขึ้นราคาน้ำอัดลมยี่ห้อดัง แต่ทางกรมการค้าภายในได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว พร้อมยืนยันว่า จะไม่มีการปรับราคาสินค้าดังกล่าวในวันที่ 1 มิ.ย. 65 ซึ่งผู้ประกอบการชี้แจงว่า ต้นทุนบรรจุภัณฑ์ทั้งเม็ดพลาสติก กระป๋องและค่าขนส่งได้ปรับสูงขึ้น เป็นผลมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของเกษตรกรก็มีกระแสข่าวการปรับขึ้นราคาปุ๋ย โดยขณะนี้ราคาปุ๋ยเคมีทุกสูตรได้มีการปรับราคาขึ้นสูงถึง 30-40% ซึ่งปุ๋ยบางสูตรที่เกษตรกรใช้ทั่วไป เคยซื้อได้ในราคาหลักร้อย แต่ปัจจุบันมีการปรับขึ้นราคาเหมือนกัน ซึ่งกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ยังไม่อนุมัติให้ผู้ค้ารายใด ปรับขึ้นราคาปุ๋ย เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา ทั้งนี้ การปรับราคาจะต้องสอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะปรับราคาไม่เท่ากัน ส่วนราคาปุ๋ยที่ปรับสูงขึ้นในหลายพื้นที่ อาจเกิดจากการซื้อเพื่อนำไปขายต่อ ซึ่งจะมีการบวกค่าขนส่งเพิ่มเติมด้วย