9 ก.ค. 64 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงตัวแทนภาคเอกชน หอการค้าจังหวัด พบปะหารือแนวทาง ผลักดันเปิดด่าน การค้าชายแดน เพื่อการค้าระหว่างกัน ที่ จุดผ่านแดนถาวร บ้านปากแซง อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี
นายจุรินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์หลังการตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าการเปิด จุดผ่านแดนถาวร บ้านปากแซง ว่า วันนี้มาดูด่านปากแซง นาตาล ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับด่านหัวตะพานของฝั่งลาว เพราะอยากเห็นการเปิดด่านนี้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัด โควิด
ซึ่งด่านนี้จะเป็นประโยชน์ทางการค้าเพราะถือเป็นด่านสำคัญที่เราส่งสินค้าไปยังฝั่งลาวเยอะ และปีหนึ่งหลายพันล้านบาท
รวมถึงทางประเทศลาวก็ส่งสินค้าที่เราต้องการมายังฝั่งไทย เช่น มันสำปะหลัง สินแร่ และสินค้าอื่นๆ หลายรายการ ซึ่งก็จะเป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย
นอกจากนี้ ในเรื่องการค้าชายแดนก็จะไปช่วยเพิ่มตัวเลขในการส่งออก ที่ภาคเอกชนเรียกร้องมาภายหลังจากการประชุม กรอ.พาณิชย์ ว่าเป็น 1 ใน 11 ด่านที่ต้องการให้เปิดในช่วงเวลานี้
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน นายจุรินทร์ เผยว่า ตนได้เชิญท่านทูตลาวมาพบที่กระทรวงพาณิชย์ โดยได้หารือกันถึงการเปิดด่านนี้ ซึ่งท่านทูตลาวรับทราบแล้ว และจะแจ้งให้หน่วยอื่นทราบต่อไป
ซึ่งในวันที่ 15 ก.ค. ที่จะถึงนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ก็จะหารือกับเจ้าแขวงฝั่งตรงข้ามด้วย
ส่วนเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานที่เราจะส่งสินค้าจากฝั่งไทยไปฝั่งลาว ที่ต้องส่งทางเรือนั้น เพราะถนนยังเป็นอันตรายรวมถึงเป็นดิน ซึ่งเราจะมีการทำถนนคอนกรีต กว้าง 8 เมตร ยาวประมาณ 330 เมตร หนา 23 เซนติเมตร
ซึ่งในส่วนนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี จะช่วยดูเรื่องงบประมาณประมาณ 15 ล้านบาท โดยจะเร่งดำเนินการให้เสร็จภายในเดือน มิ.ย. 65 ซึ่งตนหวังว่า ในส่วนนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าขายชายแดนได้มากขึ้น
ส่วนเรื่อง โควิด ประชาชนไม่ต้องกังวล เพราะเราจะส่งแต่สินค้าข้ามไป ไม่ส่งคนข้ามไปด้วย คนของเราเอาสินค้าถ่ายลงเรือไปให้ฝั่งลาวมารับสินค้าไปกระจายต่อ
ก็จะช่วยให้การค้าเกิดได้ภายใต้ข้อจำกัด โควิด
ซึ่งวิธีนี้จะทำให้การค้าดำเนินการไปได้ โดยด่านปากแซง และด่านช่องเม็ก มูลค่าการค้าในช่วงเปิดด่านตกปีละกว่า 10,000 ล้านบาท