แพงไม่ไหว! เพชรบูรณ์ราคาผักพุ่งสูง แพงกว่าอาหารทะเล

เพชรบูรณ์ผักแพง! ผักชีราคาพุ่ง กก.ละ 400-500 บาท หลังเจอประสบน้ำท่วม ทำพืชผลเสียหาย

ช่วงนี้ถือเป็นโชคดีของบรรดาเหล่าเกษตรกร ผู้ปลูกผักขาย เพราะผักมีราคาดี แต่ราคาผักที่ถูกนำไปขายย่อยที่ตลาด โดยผ่านมือพ่อค้า-แม่ค้าคนกลางหลายทอด ทำให้ราคาผักทุกชนิด มีราคาจำหน่ายแพงขึ้นเป็นเท่าตัว สาเหตุเพราะความต้องการของลูกค้าที่มีมาก แต่สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ทำให้ผักที่ปลูกเอาไว้เกิดความเสียหาย จึงส่งผลให้ราคาผักต้นทางปรับตัวสูงขึ้นไม่เลิก ส่วนราคาจำหน่ายย่อยนั้นไม่ต้องพูดถึง อย่างเช่นราคาจำหน่ายย่อยที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งมีพื้นที่ทางการเกษตรในการปลูกผักและมีตลาดผักที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ ก็ยังไม่พ้นราคาผักแพง!

เมื่อวานนี้ (28 ต.ค. 64) ผู้บริโภคใน จ.เพชรบูรณ์ ถึงกับโอด เพราะเจอราคาผักที่ตลาดขายแพงกว่าอาหารทะเลซะแล้ว ราคาส่งผักชีอยู่ที่กิโลกรัมละ 150 – 160 บาท แต่พอถูกนำไปขายย่อยตามตลาด จะอยู่ที่ขีดละ 40-50 บาท หรือ ราคากิโลกรัมละ 400-500 บาท กะหล่ำปลี ราคาส่งอยู่ที่ 15 บาท ราคาขายย่อย อยู่ที่ กิโลกรัมละ 50-60 บาท นอกจากนี้ ราคาผักที่ตลาดขายส่งทุกชนิด มีการปรับราคาสูงขึ้น ทั้งแตงกวา ราคากิโลกรัมละ 25 บาท มะเขือยาว ราคากิโลกรัมละ 35 บาท ผักบุ้งจีน ราคากิโลกรัมละ 38 บาท กะหล่ำปลี ราคากิโลกรัมละ 15 บาท ผักกาดขาว ราคากิโลกรัมละ 25 บาท ถั่วฝักยาว ราคากิโลกรัมละ 44 – 45 บาท

ขณะที่พ่อค้า เผย ตอนนี้ผักชีราคาขายหน้าตลาด(ราคาส่ง) จะอยู่ที่ประมาณ 150 – 160 บาท ซึ่งราคานี้แพงมาได้เดือนกว่าๆแล้ว โดยปกติแหล่งผลิตใหญ่สุดอยู่ที่เพชรบูรณ์ แต่เนื่องจากช่วงนี้ประสบปัญหาพายุ น้ำท่วม ทำให้ผักชีในหล่มสักเสียหายเยอะ จึงขาดตลาด ต้องสั่งมาจากทางเหนือบ้าง อีสานบ้าง เช่น อุดรธานี อุตรดิตถ์ แม่สอด ส่งผลให้ราคาขยับขึ้นสูงตามไปด้วย

คลิปอีจันแนะนำ
ป้าข้างบ้าน ทำซวย! เนียนฝากยาบ้า ส่งผู้ป่วยโควิด