หนุ่มแชร์ประสบการณ์ กู้บ้าน 13 ล้าน ผ่อน 30 ปี จ่ายหนี้บาน 33 ล้าน

ลมแทบจับ! หนุ่มโพสต์ แชร์ประสบการณ์ กู้ซื้อบ้าน 13 ล้านบาท ผ่อน 30 ปี ดอกเบี้ยบาน 20 ล้านบาท เพราะจ่ายจริงเป็น 33 ล้านบาท ฝากการบ้านรัฐบาลใหม่ช่วยด้วย

แน่นอนว่า กว่าจะได้เป็นเจ้าของบ้านในฝันนั้น ต้องผ่านขั้นตอนและการวางแผนทางการเงินมากมาย แถมยังต้องกังวลกับภาระหนี้สินที่ชำระไปเท่าไรก็ไม่หมดสิ้นสักทีด้วย ซึ่งเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์แชร์ประสบการณ์กู้เงินซื้อบ้าน แล้วพบว่าดอกเบี้ยเพิ่มสูงมากถึง 20 ล้านบาทเลยทีเดียว

โดยระบุว่า อยากแชร์ให้คนที่กำลังซื้อบ้านตอนนี้ (ดอกขาขึ้น)

เพื่อนผม ซื้อบ้าน ราคา 12,900,000 บาท ผ่อน 30 ปี แบบไม่โปะเลย รวมดอก 33,1xx,xxx บาท

(***เอกสารนี้ก่อนปรับดอกเบี้ยขึ้นรอบล่าสุด MRR 8.350% !!)

ธนาคารเอาเปรียบไปมั้ยครับ ในขณะที่ดอกเบี้ยเงินฝากปรับขึ้น 0.25% ก็ยังต่ำเตี้ยเลี่ยดินเหมือนเดิม (มันไม่มีความบาลานซ์กันเลย) และกลับเน้นไปที่ให้พนักงานธนาคารขาย Product ประกันชีวิตให้ลูกค้า ถึงจะได้เงินฝากดอกเบี้ยสูงกว่าปกติ

วอนขอฝากรัฐบาลชุดต่อไป ควบคุมและแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ประชาชนด้วย ผลกระทบวงกว้างมาก ประเทศนี้จะมีสักกี่คนที่ซื้อบ้านเงินสด ผมบอกได้เลย “ไม่มาจากตระกูลที่ร่ำรวยอยู่แล้ว ก็ทุนสีเทา ทั้งนั้น” มีเงินสด 1,000,000 ทุกวันนี้ซื้อคอนโดยังแทบไม่ได้เลย บ้านเดี่ยวหลังเล็กๆราคาไป 4-5 ล้าน หมดแล้ว

ปล. ถ้าดอกเบี้ยขาขึ้นขนาดนี้น่ะ! ประชาชนทำงานไม่ต้องใช้ชีวิตหรอก จ่ายแบงค์จ่ายนายทุนหมด (เกินไปมาก)

#ดอกเบี้ยขาขึ้น #ธนาคารแห่งประเทศไทย

ถัดมา วันนี้ (23 มิ.ย.66) เจ้าของโพสต์ดังกล่าว ก็ได้โพสต์ข้อความอธิบายอีกครั้ง ว่า

กรุณาอ่านให้จบก่อนด่า ในประเด็น ดอกเบี้ยลอยตัว ที่ขึ้นแล้วขึ้นอีก !!

ข้อที่ 1.เพื่อนแค่ถามผม ไม่ใช่การบ่น โวยวาย แต่มันคือการตั้งคำถามจากคนไม่รู้น่ะ

ข้อที่ 2.ประเด็นที่ผมสื่อสาร “ผมกำลังพูดถึง ดอกเบี้ยขาขึ้น (แบบลอยตัว) ที่อาจจะขึ้นไปอีก ฉะนั้น “เรื่องโปะ กลบ รี” ทำไมผมจะไม่เข้าใจครับ ผมซื้อบ้านตั้งแต่อายุ 25 ปี อาทิ บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโด ที่ดิน ที่มีอยู่หลายที่!!

คุณรู้หรือไม่! ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา “ดอกเบี้ยเงินกู้ไม่มี Fix Promotion แบบ 2-3 ปีแบบที่คุณเคยกู้แล้ว” แต่มันมีแต่แบบลอยตัว

ความหมาย = สมมุติในสัญญาระบุดอกเบี้ย 3.8% (ซึ่งปกติเรารับรู้และรับได้ 3.8% ตลอดโปร 3 ปี จะตัดเงินต้นเท่าไรดอกเบี้ยเท่าไร) แต่ในปัจจุบันมันไม่เป็นแบบนั้นแล้ว เพราะดอกเบี้ยมันลอยตัว ฉะนั้นหลังเซ็นสัญญา คุณอาจจะเจอดอกเบี้ย 4.5%, 4.6%, 5% หรือมากกว่านั้น (ในอนาคต) ยอดการผ่อนคุณเท่าเดิม แต่เงินต้นคุณจะตัดน้อยลงมากเรื่อยๆ ไม่เชื่อคุณลองเอายอด 1,000,000 คิดที่ดอกเบี้ย 3.8% กับ 4.6% หรือ 5% จะได้เข้าใจว่าส่วนต่างมากขนาดไหน???

ผมถึงถามว่า “มันยุติธรรมมั้ย?” ก็ในเมื่อสัญญาคุณเซ็น 3.8% แต่แบบมันลอยตัวไง มันไม่มี Fix Pro แบบก่อนหน้านี้แล้วครับ !!

***แล้วถ้าคุณบอกธนาคารนั้นนี้ดอกถูก “ลองกู้ได้เลยครับ” ว่าผ่านกี่คน มี 10 ผ่าน 2 ก็สุดยอดแล้ว นอกนั้นหรอ

ขอเอกสารเพิ่มเติมไปไปเรื่อยๆ สุดท้ายจบที่ “การปฏิเสธคุณ”

อย่างไรก็ตาม ‘อีจัน’ ขอยกเคสนี้เป็นกรณีศึกษา พร้อมมองว่า การผ่อนบ้านให้สำเร็จได้เร็วขึ้น มีทางเลือกอื่นๆ เช่น การรีไฟแนนซ์ หรือการยกเลิกสัญญาสินเชื่อที่ทำอยู่ เพื่อไปทำสัญญากู้กับสถาบันการเงินแห่งใหม่ กรณีที่ได้รับข้อเสนอดีกว่าเดิม และการนำเงินโบนัส เงินอั่งเปา หรือเงินอื่นที่ได้รับในโอกาสพิเศษอื่นๆ มาเป็นตัวช่วยก็เป็นวิธีที่ดีเช่นกัน

ทั้งนี้ ต้องประกอบกับการมีวินัยและความรับผิดชอบในการชำระตามกำหนดด้วยนะ เท่านี้ความฝันในการเป็นเจ้าของบ้านก็ไม่ใช่เรื่องยาก

คลิปอีจันแนะนำ
อ.อ๊อด ไขข้อสงสัย ถังดับเพลิงระเบิดเพราะอะไร?