ด้วยนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ทำให้รัฐบาลมีแผนออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กู้เงิน 5 แสนล้านบาท จึงได้ทำหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อขอให้วินิจฉัยในข้อกฎหมายว่าสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งถัดมา คณะกรรมการกฤษฎีกา มีหนังสือตอบกลับมา โดยประเด็นสำคัญ อยู่ตรงวรรคสุดท้ายของหนังสือ คือ
ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 เช่น ต้องจำเป็นเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง แก้ไขวิกฤตของประเทศ หรือต้องเป็นไปตาม มาตรา 53 มาตรา 57 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 9 ของพ.ร.บ.วินนัยการเงินการคลังฯ
“หากสามารถตอบเงื่อนทั้งหมดได้ ก็สามารถออกเป็น พ.ร.บ.ได้ แต่ถ้าไม่ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายก็ไม่สามารถดำเนินการได้”
ส่วนการตีความว่า วิกฤตหรือไม่วิกฤต ต่อเนื่องและจำเป็นเร่งด่วนหรือไม่ เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่มีตัวเลขเศรษฐกิจ อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ และสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟ กับสํานักข่าวรอยเตอร์ส ว่า เศรษฐกิจไทย แม้จะมีอัตราการเติบโตที่เชื่องช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ไม่ได้อยู่ในช่วงวิกฤตตามมุมมองของรัฐบาล
นโยบายดอกเบี้ยในปัจจุบันถือว่าเป็นกลาง และประเทศไทยไม่ได้เจอกับภาวะเงินฝืดแต่อย่างใดด้วย ที่ดอกเบี้ยติดลบในช่วงที่ผ่านมา เป็นสาเหตุจากแนวทางการลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล คือการปรับลดราคาค่าพลังงาน ลดค่าครองชีพต่างๆ
“หากคุณต้องการให้อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นในระยะยาว คุณต้องปรับปรุงที่โครงสร้างเศรษฐกิจ และต้องเพิ่มผลผลิต ไม่ใช่แค่ใช้มาตรการกระตุ้นระยะสั้นเท่านั้น” ดร.เศรษฐพุฒิ กล่าว
ซึ่งมาตรการกระตุ้นระยะสั้นที่พูดถึงนี้ ก็คือ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต นั่นเอง
นอกจากนี้ ดร.เศรษฐพุฒิ ยังระบุว่า สิ่งที่เราเห็นก็คือ เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวขึ้น แต่เป็นการฟื้นตัวที่เชื่องช้ากว่าที่คาดการณ์กันเอาไว้ ซึ่งสิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่าวิกฤตแต่อย่างใด มีเพียง 2 ประเทศในโลกเท่านั้น ที่มีนโยบายดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าประเทศไทยนั่นก็คือญี่ปุ่น และสวิตเซอร์แลนด์ สิ่งที่สําคัญที่ต้องรักษาไว้ คือ ความเป็นอิสระของความไว้วางใจ และความน่าเชื่อถือ ของธนาคารกลาง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันมาโดยตลอดว่า ประเทศไทยอยู่ในสภาพเศรษฐกิจวิกฤต และมีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ถือเป็นนโยบายสำคัญที่ต้องผลักดันให้เกิดขึ้น ควบคู่ไปกับการรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย
ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า รัฐบาลยังมีความพยายามจะออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อเดินหน้านโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ดังนั้น ที่มีกระแสข่าวว่า จะหันไปใช้งบประมาณปี 2568 แทน พร้อมลดวงเงินเหลือเพียง 3 แสนล้านบาทนั้น ไม่เป็นความจริง
จะเห็นได้ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจของไทยนี้ ประสบกับภาวะวิกฤตหรือไม่ มีหลายมุมมอง ‘ลูกเพจอีจัน’ คิดเห็นอย่างไรกันบ้างคะ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
คลิปอีจันแนะนำ
หนุ่มใจดี ตัดผมฟรี ให้คนไร้บ้าน