ขึ้นแล้ว! ยอดจ่ายขั้นต่ำ ‘บัตรเครดิต’ จาก 5% เป็น 8% เริ่ม 1 ม.ค.67

คนชอบรูด เตรียมตัว! ยอดจ่ายขั้นต่ำ ‘บัตรเครดิต’ ขึ้นแล้วจาก 5% เป็น 8% เปิดแนวทางช่วยคนจ่ายไม่ไหว

เริ่มต้นปี 2567 ผู้ถือบัตรเครดิตต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ เมื่อสถาบันการเงินประกาศปรับอัตราการชำระหนี้ขั้นต่ำจาก 5% เพิ่มเป็น 8% และจะกลับสู่อัตราปกติที่ 10% ในปีถัดไป คำประกาศนี้ส่งผลกระทบไปถึงประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่มีภาระหนี้สินจากบัตรเครดิต

จากการประเมินของผู้บริหารธนาคารยูโอบี พบว่า ผู้ถือบัตรเครดิตประมาณ 20% มีแนวโน้มชำระเพียงขั้นต่ำ และในจำนวนนั้น 10% อาจเผชิญความยากลำบากในการชำระหนี้ ธนาคารจึงเตรียมแผนการดูแลลูกหนี้เหล่านี้ โดยจะพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้เหมาะสมกับภาระทางการเงินของแต่ละบุคคล

ขอบคุณภาพจาก ธนาคารกสิกรไทย

นายอธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานชมรมธุรกิจบัตรเครดิต สมาคมธนาคารไทย ได้แสดงความกังวลว่า การปรับอัตราการชำระขั้นต่ำในช่วงเวลานี้อาจไม่เหมาะสม เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวอย่างที่คาดไว้ อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชน ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการปรับอัตราการชำระขั้นต่ำนี้ ส่งผลกระทบต่อผู้ถือบัตรเคร ดิตจำนวนมาก โดยค่างวดหนี้เฉลี่ยต่อเดือนที่เคยเป็น 4,000 บาท อาจเพิ่มเป็น 8,000 บาท ชมรมฯ จึงมีแผนติดตามผลกระทบนี้ในช่วงครึ่งปีแรก และจะหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทยต่อไป

สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาหนี้บัตรเครดิต จนกลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL สามารถขอรับคำปรึกษากับคลินิกแก้หนี้บายแซม ซึ่งเป็นสถาบันที่ช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาหนี้สินบัตรเครดิต คลินิกนี้เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีปัญหาหนี้สามารถเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ โดยอาจมีอัตราการผ่อนชำระต่ำถึง 3-5% ต่อปี นานสูงสุด 10 ปี นับเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในการจัดการกับภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น

การปรับเพิ่มอัตราการชำระหนี้ขั้นต่ำของบัตรเครดิตในปี 67 นี้เป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับผู้บริโภคหลายล้านคนทั่วประเทศไทย ซึ่งจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแผนการเงินและวางแผนในการจัดการกับหนี้สินใหม่ ในขณะที่สถาบันการเงินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเฝ้าติดตามและพิจารณามาตรการที่เหมาะสมเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้และผู้บริโภคในการผ่านพ้นช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ