
จากผลการตัดสินของศษลรัฐธรรมนูญที่มติ 5 ต่อ 4 เสี่ยง ให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีผลเมื่อวันที่ 14 ส.ค.67 รวมแล้วปฏิบัติหน้าที่ 355 วัน ในฐานะผู้นำรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาคือโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” จะเป็นอย่างไรต่อไป หากผู้นำที่เข้ามาใหม่ไม่ใช่คนจากเสียงข้างมากของรัฐบาล หรือ “พรรคเพื่อไทย”
วันนี้ (15 ส.ค.67) ตามที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส. เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระบวนการของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ยังเหลือขั้นตอนที่ต้องดำเนินการอีกมาก จึงไม่สามารถตอบได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เพราะขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมือง
ข่าวน่าสนใจอื่น
ดังนั้น ชวนมาเปิดมุมมองต่อกรณีดังกล่าว ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) วิเคราะห์ฉากทัศน์ทางการเมือง หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินถอดถอน นายเศรษฐา ทวีสิน จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยแบ่งความเป็นไปได้ออกเป็น 3 ฉากทัศน์ ดังนี้
1.นายกรัฐมนตรีมาจากพรรคเพื่อไทย ประเมินว่า ความน่าจะเป็นอยู่ที่ 50% ส่งผลให้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตก็มีโอกาสเกิดขึ้นเท่าเดิม แต่อาจล่าช้า อย่างเร็วที่สุดเริ่มได้เดือนธ.ค.67 นอกจากนี้ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยปี 67-68 มีการขยายตัวได้น้อย เนื่องจากนโยบายเศรษฐกิจภาพรวมยังคล้ายเดิม แต่ความไม่แน่นอนทางการเมืองสูงขึ้น

2.นายกรัฐมนตรีมาจากพรรคร่วมอื่น ประเมินว่า ความน่าจะเป็นสำหรับฉากทัศน์นี้อยู่ที่ 40% ส่งผลให้ดิจิทัลวอลเล็ตก็มีโอกาสเกิดน้อยมาก หรืออาจเกิดขึ้นได้ แต่วงเงินโครงการจะลดลงไปมาก ส่วนผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยปี 67-68 ได้รับผลทั้งทางตรงผ่านงบประมาณปี 68 ที่ล่าช้า หรือการลงทุนภาครัฐลดลงราว 3 หมื่นล้านบาท ทำให้จีดีพีหายไป -0.27% และมีผลต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ
3.ยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ ประเมินว่า ความน่าจะเป็นสำหรับฉากทัศน์นี้อยู่ที่ 10% เท่านั้น หากฉากทัศน์นี้เกิดขึ้น ดิจิทัลวอลเล็ตก็ไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยปี 67-68 ได้รับผลทั้งทางตรงผ่านงบประมาณปี 68 ที่ล่าช้า หรือการลงทุนภาครัฐลดลงราว 6 หมื่นล้านบาท ทำให้จีดีพีหายไป -0.54% และมีผลต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นนโยบายที่รัฐบาลคาดหวังจะกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ โดยใช้งบประมาณ 4.5 แสนล้านบาท คาดว่าประชนลงทะเบียน 45-50 ล้านคน ซึ่งหลังจากเปิดลงทะเบียนไปเมื่อวันที่ 1 ส.ค.67 ผ่านไป 15 วัน จำนวนผู้ลงทะเบียนผ่านแอปฯทางรัฐเกิน 30 ล้านคน โดยวันที่ 22 ก.ย.นี้ จะมีการแจ้งผลการทะเบียน
