ลูกหนี้เฮ! ‘กยศ.’ ลดเบี้ยปรับผิดนัดจาก 1% เหลือ 0.5%

พ.ร.บ.กยศ.ใช้แล้ว ลดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% เปิดอัพสกิล-รีสกิล กู้ได้ไม่ต้องค้ำประกัน-เปลี่ยนลำดับตัดชำระหนี้ไปอีก

กองทุน กยศ. หรือกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นกองทุนสร้างโอกาสทางการศึกษา สำหรับนักเรียนและนักศึกษา ตั้งแต่ระดับมัธยมปลาย (สายสามัญและสายอาชีพ) และอาชีวศึกษา 

โดยวงเงินกู้ยืมแบ่งตามระดับการศึกษาและสาขาวิชาที่ผู้กู้ศึกษาอยู่ แบ่งเป็นวงเงินสำหรับค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา และค่าครองชีพ ซึ่งไม่คิดดอกเบี้ยระหว่างที่ศึกษาอยู่ แต่ต้องชำระเงินคืนหลังจากจบการศึกษาแล้ว

พ.ร.บ.กยศ.ใหม่ ใช้แล้ววันนี้ (20 มี.ค.66) เก็บดอกเบี้ยไม่เกิน 1%

ซึ่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566 ที่เริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว คิดดอกเบี้ยไม่เกิน 1% ต่อปี เบี้ยปรับลดเหลือ 0.5% ต่อปี ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน เพิ่มให้กู้ยืมหลักสูตรระยะสั้น เพื่อเพิ่มและพัฒนาทักษะ (Reskill Upskill) พร้อมเปลี่ยนลำดับตัดชำระจากเดิม เป็นตัดต้นเงินเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับตามลำดับ

ทั้งนี้ นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เผยว่า ขณะนี้ พ.ร.บ.กยศ.ฉบับใหม่นี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.66 เป็นต้นไป มีสาระสำคัญคือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไม่เกิน 1% ต่อปี กรณีผิดนัดชำระลดอัตราเบี้ยปรับเหลือไม่เกิน 0.5% ต่อปี และไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันในทุกกรณี 

นอกจากนี้ กองทุนยังขยายโอกาสให้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนให้เข้าถึงการศึกษาที่หลากหลายในหลักสูตรระยะสั้นเพื่อเพิ่มและพัฒนาทักษะ ครอบคลุมหลักสูตรอาชีพ เพื่อยกระดับทักษะ สมรรถนะ เสริมทักษะเฉพาะทางสำหรับวิชาชีพต่างๆ

ทั้งนี้ จะสามารถช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างดำเนินคดีหรืออยู่ระหว่างการบังคับคดีให้สามารถผ่อนผันการชำระเงินคืน ปรับโครงสร้างหนี้ หรือแปลงหนี้ใหม่ ตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการกองทุนกำหนด

นอกจากนั้น หลักเกณฑ์สำคัญที่มีการปรับเปลี่ยนตาม พ.ร.บ.กยศ.ฉบับใหม่นี้ คือ ลำดับการตัดชำระหนี้ใหม่ ซึ่งกำหนดให้นำเงินที่ผู้กู้ยืมเงินชำระไปหักต้นเงินเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ยหรือประโยชน์อื่นใด และเงินเพิ่มตามลำดับ ปัจจุบันกองทุนอยู่ระหว่างปรับปรุงระบบการตัดชําระหนี้เพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด 

ทั้งนี้ เมื่อระบบเสร็จสมบูรณ์แล้วกองทุนจะนำยอดรับชำระเงินทุกรายการตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.66 มาคำนวณการรับชำระใหม่อีกครั้งและปรับข้อมูลให้ถูกต้อง โดยจะนำเงินที่ได้รับมาหักต้นเงินเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ยหรือประโยชน์อื่นใดและเงินเพิ่มตามลำดับ และจะคำนวณเบี้ยปรับใหม่ จากเดิม 7.5% เหลือเพียง 0.5% ซึ่งผู้กู้ยืมเงินจะไม่เสียสิทธิอันพึงได้ตามกฎหมายหรือได้รับผลกระทบใดๆ  

ส่วนของการให้กู้ยืมในปีการศึกษา 2566 กองทุนได้จัดเตรียมวงเงินกู้ยืมกว่า 40,000 ล้านบาท สำหรับนักเรียน นักศึกษากว่า 6 แสนราย ทั้งนี้ กองทุนจะเป็นหลักประกันให้กับทุกครอบครัวว่าเด็กทุกคนที่เกิดมาในประเทศนี้จะมีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมกันทุกคน เพราะความยากจนจะไม่ใช่อุปสรรคในการเข้าถึงการศึกษาอีกต่อไป

ยังไง รุ่นพี่ทั้งหลายก็อย่าลืมคืนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาด้วยนะ  เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษารุ่นน้องต่อไปจ้า

คลิปอีจันแนะนำ
มหากาพย์พลอยแดง 29 ปี ไร้การเยียวยา