กรมพัฒน์ฯ เตือน ต่างชาติ ขายอาหาร-เครื่องดื่ม ในไทย ต้องขออนุญาต!

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตือน ต่างชาติ ขายอาหาร-เครื่องดื่ม ในไทย ต้องขออนุญาต ชี้ มีมาตรการป้องกัน 3 ข้อ ฝ่าฝืนเจอโทษหนัก

จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารย่านเยาวราช มีความกังวลต่อชาวจีนรุ่นใหม่ ที่ถือวีซ่านักท่องเที่ยวเข้ามาทำธุรกิจในไทย โดยใช้นอมินีหรือมีเพียงวีซ่านักท่องเที่ยวเข้ามาประกอบธุรกิจหลากหลายประเภทในย่านเยาวราช เช่น ร้านอาหาร ร้านค้าขาย ฯลฯ ทำให้อาจกระทบต่อค่าเงินต่างๆ ทำให้รายได้กระจายสู่ท้องถิ่นน้อยลง และผู้ประกอบการไทยจะประสบปัญหาในระยะยาว รวมไปถึงการใช้จ่าย ซึ่งจะใช้จ่ายผ่านระบบของจีนระหว่างคนจีนกับคนจีนด้วยกัน และยังสามารถเปิดบัญชีได้ แต่ไม่ทราบว่า ปลายทางของเงินจะกลับไปอยู่ที่ประเทศต้นทางของเขาหรือไม่ สิ่งที่เห็นชัดคือ ไม่ต้องเสียภาษีเหมือนกับนักธุรกิจชาวไทย

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า คนต่างชาติถือวีซ่านักท่องเที่ยว แต่เข้ามาประกอบธุรกิจร้านอาหารในไทยไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ห้ามคนต่างชาติทำ หากต้องการประกอบธุรกิจขายอาหาร หรือเครื่องดื่มในไทยต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวก่อน จึงจะประกอบธุรกิจได้ และยังมีมาตรการป้องกันปราบปราม และตรวจการกระทำในลักษณะนอมินี ดังนี้

1.กำหนดให้มีการจดทะเบียน โดยให้คนไทยที่ร่วมลงทุนในนิติบุคคลต้องแสดงหลักฐานที่ธนาคารออกให้ เพื่อรับรองหรือแสดงฐานะการเงินที่แสดงว่า มีทรัพย์สินเพียงพอที่จะลงทุนในนิติบุคคลได้

2.เมื่อจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้ว จะตรวจสอบว่า มีการใช้คนไทยถือหุ้นแทน หรือเป็นนอมินีเพื่อหลีกเลี่ยง หรือฝ่าฝืนประกอบธุรกิจควบคุมตาม พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หรือไม่ โดยตรวจสอบบุคคล หรือนิติบุคคลใดกระทำความผิดตามกฎหมาย หรือมีคนไทยให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวเพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจที่หลีกเลี่ยง หรือฝ่าฝืนกฎหมายที่เข้าข่ายความผิดนอมินีนั้น ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนที่แสดงว่า คนไทยมีพฤติกรรมตั้งใจ ปกปิด อำพราง หรือมีการจัดทำเอกสารหลักฐานในลักษณะอำพรางในการให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว โดยเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริง รวมทั้งพยานเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาพิจารณาประกอบการตรวจสอบ ปัจจุบันกรมฯ ได้จัดทำเป็นแผนงานตรวจสอบประจำปี ซึ่งธุรกิจขายอาหารหรือเครื่องดื่มเป็นหนึ่งในธุรกิจที่อยู่ในแผนงานตรวจสอบด้วย

3.กรณีที่มีการจดทะเบียนพาณิชย์เพื่อประกอบธุรกิจ (จดทะเบียนพาณิชย์ที่สำนักงานเขต กรุงเทพมหานคร เทศบาล หรือ อบต.ที่ร้านค้าตั้งอยู่) เป็นการจดทะเบียนการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจคนเดียว ซึ่งคนต่างชาติไม่สามารถจดทะเบียนพาณิชย์ได้ ที่ผ่านมา กรมฯ ได้ร่วมมือกับกระทรวงแรงงานในการลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจกลุ่มนี้ ซึ่งหากพบว่ามีคนต่างด้าวประกอบธุรกิจ โดยไม่ได้รับอนุญาตก็จะมีความผิดตามกฎหมายของกระทรวงแรงงานและของกระทรวงพาณิชย์นอกจากนี้ หากพบคนไทยมีการจดทะเบียนพาณิชย์แทนคนต่างด้าวก็จะมีความผิดในลักษณะนอมินีด้วย

เนื่องจากประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานและกฎหมายหลายฉบับ กรมฯ จะบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นต่อไป

พร้อมขอเตือนคนไทยที่ถือหุ้นแทนคนต่างด้าวหรือร่วมเอาชื่อเข้าเป็นผู้ถือหุ้น โดยไม่ได้ลงทุนจริง หรือให้การสนับสนุนร่วมประกอบธุรกิจกับคนต่างด้าว โดยแสดงว่า เป็นธุรกิจของคนไทยเพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 – 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวันอีกวันละ 10,000 – 50,000 บาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน