(วันนี้ 1 ก.ค.68) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการขยายคุณสมบัติของลูกหนี้ที่สามารถเข้าร่วมโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ขยายคุณสมบัติมาตรการจ่ายตรงคงทรัพย์ให้ รวมถึงลูกหนี้ที่ค้างชำระมากกว่า 365 วัน และลูกหนี้ที่ค้างชำระตั้งแต่ 1-30 วัน คาดว่าการขยายโครงการนี้จะช่วยเหลือลูกหนี้ได้เพิ่มเติมอีกกว่า 1.8 ล้านราย หรือ 2 ล้านบัญชี ยอดสินเชื่อคงค้างรวม 3.1 แสนล้านบาท พร้อมขยายระยะเวลารับสมัครเข้าร่วมโครงการถึง 30 ก.ย. 2568
สำหรับคุณสมบัติลูกหนี้ที่สามารถเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ 1.สินเชื่อบ้านและ/หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีที่อยู่อาศัยที่ปลอดภาระเป็นหลักประกัน (Home for Cash) ที่มีวงเงินรวมต่อสถาบันการเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท 2.สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และ/หรือสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ (Car for cash) มีวงเงินรวมต่อสถาบันการเงินไม่เกิน 8 แสนบาท และสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และ/หรือ Car for cash มีวงเงินรวมต่อสถาบันการเงิน 5 หมื่นบาท และ 3.สินเชื่อธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่มีสถานะเป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่มีวงเงินรวมต่อสถาบันการเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท
ขณะที่การผ่อนหนี้ ลูกหนี้ได้รับการลดภาระผ่อนค่างวดในช่วงระยะเวลา 3 ปี โดยในปีที่ 1 ชำระค่างวด 50% ปีที่ 2 ชำระค่างวด 70% และปีที่ 3 ชำระค่างวด 90% ของค่างวดก่อนเข้าร่วมมาตรการ และยกเว้นดอกเบี้ยให้หากลูกหนี้สามารถทำตามเงื่อนไขของมาตรการได้ครบ 3 ปี พร้อมขยายยอดคงค้างหนี้และประเภทหนี้ตามมาตรการจ่าย ปิด จบ ขยายให้ครอบคลุมภาระหนี้จำนวน 1 หมื่นบาท หากเป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน (Unsecured Loan) และ 3 หมื่นบาท หากเป็นสินเชื่อ ที่มีหลักประกัน (Secured Loan) ซึ่งวิธีการให้ความช่วยเหลือยังคงเหมือนเดิม คือ ลูกหนี้จ่ายเพียง 10% เพื่อเป็นการชำระหนี้ปิดบัญชีทันที
ทั้งนี้ได้มีการเพิ่ม “มาตรการจ่าย ตัด ต้น” ซึ่งเป็นมาตรการใหม่ เพื่อให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ลูกหนี้ NPLs ซึ่งมีสินเชื่อไม่มีหลักประกัน (Unsecured Loan) ที่มียอดหนี้คงค้างไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อบัญชี โดยการปรับโครงสร้างหนี้ให้มีเงื่อนไขเป็นการผ่อนชำระคืนเป็นงวด (Term Loan) และกำหนดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำ ที่ 2% ของยอดคงค้าง เป็นระยะเวลา 3 ปี และยกเว้นดอกเบี้ยให้เลยหากลูกหนี้สามารถทำตามเงื่อนไขได้ครบ 3 ปี