‘พาณิชย์’ เผย ยอดส่งออกของไทย เดือน พ.ค.66 ติดลบ 4.6%

กระทรวงพาณิชย์ เปิดยอดส่งออกของไทย เดือน พ.ค.66 ติดลบ 4.6% เผย ม.ค.-พ.ค.66 ขาดดุลการค้าแล้วกว่า 6.3 พันล้านเหรียญ

ช่วงเช้าวันนี้ (27 มิ.ย.66) นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวภาวะการค้าระหว่างประเทศ-การค้าชายแดนและผ่านแดน เดือน พ.ค.66 และ 5 เดือนแรกของปี 66 พร้อมด้วย นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ที่ห้องกิติยากรวรลักษณ์ ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยระบุว่า

การส่งออกของไทยในเดือน พ.ค.66 มีมูลค่า 24,340.9 ล้านเหรียญสหรัฐ (830,448 ล้านบาท) หดตัว 4.6% หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย หดตัว 1.4% จากภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ยังมีความไม่แน่นอน แม้ว่าภาคการผลิตอุตสาหกรรมโลกเร่งตัวขึ้นจากการผ่อนคลายปัญหาห่วงโซ่การผลิต แต่คำสั่งซื้อใหม่สำหรับการส่งออกไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดได้ส่งผลให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคควบคุมการใช้จ่ายมากขึ้น

อย่างไรก็ดี การส่งออกของไทยหดตัวน้อยลงกว่าเดือนก่อนหน้า และทำมูลค่าสูงกว่ามูลค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังของเดือนพฤษภาคม (21,658.8 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่กลับมาขยายตัวในรอบ 8 เดือน จากกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (เช่น อุปกรณ์กึ่งตัวนำฯ หม้อแปลงไฟฟ้าฯ)

ยานพาหนะและส่วนประกอบ และเครื่องใช้ไฟฟ้า (เช่น เครื่องปรับอากาศ) ขณะที่ ตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ อาเซียน(5) และสหภาพยุโรป กลับมาขยายตัวอีกครั้ง ทั้งนี้ การส่งออกไทย 5 เดือนแรก หดตัว 5.1% และเมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย หดตัว 2.1%

มูลค่าการค้ารวม

มูลค่าการค้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ เดือนพฤษภาคม 2566 การส่งออก มีมูลค่า 24,340.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 4.6% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 26,190.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 3.4% ดุลการค้า ขาดดุล 1,849.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ภาพรวม 5 เดือนแรกของปี 2566 การส่งออก มีมูลค่า 116,344.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 5.1% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 122,709.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 2.5% ดุลการค้า 5 เดือนแรกของปี 2566 ขาดดุล 6,365.3 ล้านเหรียญสหรัฐ

มูลค่าการค้าในรูปเงินบาท เดือนพฤษภาคม 2566 การส่งออก มีมูลค่า 830,448 ล้านบาท หดตัว 2.8% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 904,563 ล้านบาท หดตัว 1.7% ดุลการค้า ขาดดุล 74,115 ล้านบาท ภาพรวม 5 เดือนแรกของปี 2566 การส่งออก มีมูลค่า 3,941,426 ล้านบาท หดตัว 2.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 4,210,326 ล้านบาท ขยายตัว 0.2% ดุลการค้า 5 เดือนแรกของปี 2566 ขาดดุล 268,901 ล้านบาท

การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร

มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัว 16.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน หดตัวในรอบ 4 เดือน หดตัวจากสินค้าเกษตรสูงถึง 27% ขณะที่ สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร หดตัว 0.6% หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน แต่ยังมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ น้ำตาลทราย ขยายตัว 44.3% กลับมาขยายตัวหลังจากหดตัวเมื่อเดือนก่อนหน้า (ขยายตัวในตลาดอินโดนีเซีย เกาหลีใต้ กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย)

ข้าว ขยายตัว 84.6% ขยายตัวต่อเนื่อง 5 เดือน (ขยายตัวในตลาดอินโดนีเซีย อิรัก แอฟริกาใต้ สหรัฐฯ และญี่ปุ่น) เครื่องดื่ม ขยายตัว 10.3% ขยายตัวต่อเนื่อง 4 เดือน (ขยายตัวในตลาดเวียดนาม จีน มาเลเซีย เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ) ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง ขยายตัว 55.5% ขยายตัวต่อเนื่อง 12 เดือน (ขยายตัวในตลาดจีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย เกาหลีใต้ และสิงคโปร์) ผักกระป๋องและผักแปรรูป ขยายตัว 28.9% ขยายตัวต่อเนื่อง 4 เดือน (ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น สหรัฐฯ ไต้หวัน เกาหลีใต้ และจีน)

ขณะที่ สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง หดตัว 54.8% หดตัวในรอบ 7 เดือน (หดตัวในตลาดจีน มาเลเซีย ฮ่องกง เวียดนาม และญี่ปุ่น แต่ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และแคนาดา) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง หดตัว 41.7% หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน (หดตัวในตลาดจีน ไต้หวัน สหรัฐฯ เกาหลีใต้ และอินโดนีเซีย แต่ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น อินเดีย เวียดนาม ลาว และบังกลาเทศ) ยางพารา หดตัว 37.2% หดตัวต่อเนื่อง 10 เดือน (หดตัวในตลาดจีน มาเลเซีย สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ แต่ขยายตัวในตลาดเยอรมนี)

อาหารสัตว์เลี้ยง หดตัว 23.8% หดตัวต่อเนื่อง 7 เดือน (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น มาเลเซีย อิตาลี และฟิลิปปินส์ แต่ขยายตัวในตลาดลาว กัมพูชา เมียนมา นิวซีแลนด์ และบังกลาเทศ) ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ หดตัว 63% หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน (หดตัวในตลาดอินเดีย มาเลเซีย กัมพูชา ญี่ปุ่น และเวียดนาม แต่ขยายตัวในตลาดเมียนมา เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง และเนเธอร์แลนด์) ทั้งนี้ 5 เดือนแรกของปี 2566 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัว 1.3%

การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม

มูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัว 1.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน กลับมาขยายตัวในรอบ 8 เดือน โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ขยายตัว 8.3% ขยายตัวต่อเนื่อง 5 เดือน (ขยายตัวในตลาดออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น และซาอุดีอาระเบีย)

เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ขยายตัว 10.2% กลับมาขยายตัวหลังจากหดตัวเมื่อเดือนก่อนหน้า (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ เวียดนาม อินเดีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย) อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด ขยายตัว 87.7% ขยายตัวต่อเนื่อง 11 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ เวียดนาม อินเดีย จีน และเกาหลีใต้)

หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ ขยายตัว 53.7% ขยายตัวต่อเนื่อง 19 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ เนเธอร์แลนด์ เม็กซิโก อิตาลี และมาเลเซีย) รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ ขยายตัว 22.9% กลับมาขยายตัวหลังจากหดตัวเมื่อเดือนก่อนหน้า (ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น เบลเยียม สหรัฐฯ บราซิล และออสเตรเลีย)

ขณะที่ สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน หดตัว 26.8% หดตัวต่อเนื่อง 10 เดือน (หดตัวในตลาดจีน กัมพูชา อินเดีย เวียดนาม และสิงคโปร์ แต่ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และอียิปต์) เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ หดตัว 4.8% หดตัวต่อเนื่อง 8 เดือน (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ จีน ฮ่องกง เนเธอร์แลนด์ และญี่ปุ่น แต่ขยายตัวในตลาดสิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย เยอรมนี และอินเดีย)

ผลิตภัณฑ์ยาง หดตัว 6% หดตัวต่อเนื่อง 6 เดือน (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ จีน มาเลเซีย เวียดนาม และ อินโดนีเซีย แต่ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย อินเดีย และบราซิล) เครื่องโทรศัพท์และอุปกรณ์ หดตัว 34.7% หดตัวในรอบ 4 เดือน (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ เนเธอร์แลนด์ เมียนมา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และฮ่องกง แต่ขยายตัวในตลาดแคนาดา กัมพูชา สหราชอาณาจักร อินเดีย และเกาหลีใต้)

ทองแดงและของทำด้วยทองแดง หดตัว 21.2% หดตัวต่อเนื่อง 8 เดือน (หดตัวในตลาดจีน ญี่ปุ่น เวียดนาม สหรัฐฯ และไต้หวัน แต่ขยายตัวในตลาดอินเดีย เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ ตุรกี และออสเตรเลีย) ทั้งนี้ 5 เดือนแรกของปี 2566 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม หดตัว 5.4%

คลิปอีจันแนะนำ
พิธา ก้าวไกล ตอบปม คาใจหลายคน แก้ ม.112