เปิดตัวบัตรเหมาจ่าย เดือนละ 2,000 บ. ขึ้นสายสีแดง-รถเมล์ไม่อั้น

กระทรวงคมนาคม คลอดแล้ว ‘บัตรเหมาจ่าย’ จ่ายเดือนละ 2,000 บาท ขึ้นรถไฟสายสีแดงได้ 50 เที่ยว รถเมล์ไม่อั้น

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมด้วย นางพริ้มเพรา วงศ์สุทธิรัตน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง และนายกิตติพัฒน์ เพียรธรรม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย

เปิดโครงการบัตรเหมาจ่าย TRANSIT PASS RED LINE BKK X BMTA หรือ บัตรเหมาจ่ายรถไฟฟ้าสายสีแดงกับรถโดยสาร (รถเมล์) ของ ขสมก. เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ 2 ระบบ คือ ทางรางและทางบกเดินทางได้ด้วยการใช้บัตรใบเดียว

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เผยว่า บัตรเหมาจ่ายจัดจำหน่ายใบละ 2,000 บาท และค่าธรรมเนียมออกบัตร 100 บาท รวมค่าใช้จ่าย 2,100 บาท โดยหาซื้อบัตรเหมาจ่ายได้จากจุดจำหน่ายบัตรของ ขสมก. และ รฟท. 

ส่วนการใช้งานสามารถใช้บัตรเหมาจ่ายแตะชำระค่าโดยสารที่เครื่องชำระค่าโดยสารอัตโนมัติ หรือ อีดีซี บน รถเมล์ ขสมก. ที่ให้บริการปัจจุบัน 2,885 คัน และจุดรับชำระค่าโดยสารที่ รฟท. กำหนด 

หลังจากเติมเงินบัตรจะมีอายุการใช้งาน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่แตะชำระครั้งแรกที่ ขสมก. และ รฟท. อย่างใดอย่างหนึ่ง อาทิ ผู้โดยสารชำระค่าโดยสารครั้งแรกที่ ขสมก. วันที่ 1 เมษายนนี้ บัตรจะใช้งานทั้ง ขสมก. และรฟท. ได้ถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้ เท่านั้น จนกว่าการเติมเงินครั้งถัดไป โดยสามารถใช้งานกับรถเมล์ ขสมก. ทุกประเภทแบบไม่จำกัดเที่ยว

ส่วนกรณีใช้ชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดงจะนับจำนวนเที่ยวสูงสุด 50 เที่ยวต่อการเติมเงินหนึ่งครั้ง หากใช้จำนวนเที่ยว 50 เที่ยวหมดก่อน 30 วัน จะไม่สามารถใช้ชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดงได้อีก 

แต่ยังใช้ชำระค่าโดยสารรถเมล์ ขสมก. ได้จนกว่าครบ 30 วัน อาทิ ผู้โดยสารใช้งานรถไฟฟ้าสายสีแดงครั้งแรกวันที่ 1 เม.ย.นี้ ครบ 50 เที่ยวในวันที่ 25 เม.ย.นี้ ผู้โดยสารไม่สามารถใช้ชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดงได้อีก แต่ยังคงใช้ชำระค่าโดยสารรถเมล์ ขสมก. ได้จนถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้ ตามปกติ จนกว่าจะเติมเงินรอบต่อไป

ปัจจุบันผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง 25,000 คนต่อวัน แบ่งเป็นใช้จ่ายผ่านบัตรประเภทต่างๆ รถไฟฟ้าสายสีแดงรองรับ 4,000-5,000 คนต่อวัน ที่เหลือจ่ายค่าโดยสารผ่านเหรียญโดยสาร คาดว่ามีบัตรเหมาจ่ายจะเพิ่มให้มีผู้มาใช้จ่ายผ่านบัตรเป็น 10,000 คนต่อวัน 

ส่วนค่าโดยสารจำนวน 50 เที่ยว จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1,250 บาท หรือเฉลี่ย 25 บาทต่อเที่ยว เมื่อมีบัตรเหมาจ่ายจะจ่ายแค่ 1,100 บาท หรือเฉลี่ย 22 บาทต่อเที่ยว ช่วยประหยัดได้ 150 บาท หรือ 3 บาทต่อเที่ยว ขณะเดียวกัน เมื่อซื้อบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ ขสมก. ประเภทรถเมล์แอร์แบบรายเดือนราคา 1,020 บาท แต่เมื่อซื้อบัตรแบบเหมาจ่ายจะจ่ายแค่ 900 บาทต่อ 30 วัน ซึ่งช่วยประหยัดได้ 120 บาทต่อเดือน

ด้าน นางพริ้มเพรา วงศ์สุทธิรัตน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า ขณะนี้ มีผู้โดยสารที่ชำระค่าโดยสารผ่านเครื่อง อีดีซี อยู่ที่ 50,000 คนต่อวัน หากมีบัตรเหมาจ่ายตั้งเป้าจะเพิ่มยอดชำระผ่านเครื่องอีดีซี อยู่ที่ 55,000-60,000 คนต่อวัน 

จากจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการรถเมล์ประมาณ 700,000 คนต่อวัน หลังจากนี้ ขสมก. และรถไฟฟ้าสายสีแดงจะใช้เวลาประมาณเมิน 6 เดือน เกี่ยวกับจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการ รวมทั้งระบบการใช้งานต่างๆ เพื่อปรับปรุงให้สอดคล้องกับการใช้งานต่อไป

ขณะที่ นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กล่าวว่า สำหรับการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าและค่าโดยสารรถ ขสมก. ผ่านบัตร EMV (Europay Mastercard and Visa) ซึ่งเป็นบัตรเดบิตและบัตรเครดิตทุกธนาคารที่มีสัญลักษณ์ Contactless ที่ใช้แตะแทนเงินสดนั้น 

ปัจจุบันบัตรดังกล่าวสามารถใช้เชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน รถไฟฟ้าสายสีม่วง รถไฟสายสีแดง และรถขสมก. แล้ว ล่าสุด ธนาคารกรุงไทยได้ดำเนินการจัดทำระบบบัตรเหมาจ่ายรถไฟฟ้าสายสีแดงกับรถเมล์) ถือเป็นความร่วมมือนวัตกรรมทางการเงินที่เกิดขึ้น

“มองว่าการพัฒนาดังกล่าวเป็นการเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้งของพรรคการเมืองที่มีนโยบายเกี่ยวกับค่าโดยสาร 20-40 บาทตลอดสาย หากอนาคตมีนโยบายจากรัฐบาลใหม่ ที่มีความชัดเจนในการสนับสนุนค่าโดยสารให้ประชาชนสามารถดำเนินการได้ ถือเป็นการตอบโจทย์นโยบายพรรคการเมืองที่อยู่ระหว่างการหาเสียงได้มาก”
นายพิเชฐ กล่าว

ส่วนในระยะต่อไปบัตรดังกล่าวจะเชื่อมต่อกับเส้นทาง อื่นๆ หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของประชาชน ขณะเดียวกันในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะให้ผู้ประกอบการถร่วมเอกชนของ ขสมก. มาดำเนินการจำหน่ายบัตรโดยสารร่วมกัน ซึ่งจะช่วยเชื่อมต่อกับระบบขนส่งอื่นๆ ได้สะดวกมากขึ้น

ว่ากันด้วยตั๋วร่วม ถือเป็นอีกหนึ่งเมกะโปรเจ็กต์ที่รัฐบาลพยายามผลักดันแล้ว ผลักดันเล่า ถึงคราวนี้แจ้งเกิดได้ซักที แม้แค่บางส่วนก็ได้อยู่นะ

คลิปอีจันแนะนำ
พิษศัลยกรรม ทำตาสองชั้น ได้สามเหลี่ยม!