
วันนี้ (12 มิ.ย.68) ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยวันนี้ (12 มิ.ย.) มีการประชุมคณะกรรมการ กสทช. (บอร์ด กสทช.) ซึ่งมีการพิจารณาวาระสำคัญ 2 เรื่อง
- 1.การปรับปรุงเงื่อนไข หรือ มาตรการเฉพาะ กรณีการควบรวมกิจการระหว่าง “ทรู-ดีแทค”
- 2.การพิจารณาคุณสมบัติผู้เข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ 850 2100 และ 2300MHz ที่จะประมูลในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ ซึ่งมีผู้เข้าร่วม 2 ราย คือ “ทรู” และ “เอไอเอส”
อย่างไรก็ตาม ก่อนเข้าสู่วาระพิจารณาการปรับปรุงมาตรการเฉพาะกรณีควบรวมกิจการทรู-ดีแทค มีการหยิบยกวารเร่งด่วนคือ การ “คัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการ กสทช.” ในที่นี้ คือ ศ.กิตติคุณ ดร. พิรงรอง รามสูต ซึ่งมีการยื่นทักท้วงมาจากตัวแทนภาคเอกชน
สืบเนื่องจากมีข้อพิพาทระหว่าง บริษัท ทรูดิจิทัล จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม TrueID ที่ยื่นฟ้องต่อ ดร.พิรงรองฯ ในข้อหาใช้อำนาจมิชอบ และศาลปกครองได้ตัดสินให้ ดร. พิรงรองฯ มีความผิดจริง
ด้วยมีความขัดแย้งกันมาก่อน จึงไม่ควรให้พิจารณาวาระที่เกี่ยวข้องกับคู่กรณี ทำให้มีการพยายามกีดกัน ดร.พิรงรองฯ ออกจากการประชุมในวาระสำคัญดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ข้อพิพาทดังกล่าวเป็นข้อพิพาทระหว่าง “ทรู ดิจิทัล” และ ดร. พิรงรอง ไม่ใช่ กับ “ทรูมูฟเอช” หรือ “ทรู คอรปอเรชัน” ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่เป็นผู้ควบรวมกิจการกับดีแทค ดังนั้น ทำให้ภายในบอร์ด กสทช. มีการถกเถียงอย่างดุเดือดยาวนานเกือบครึ่งวัน
ผลสรุป คือ บอร์ด ให้สำนักงาน กสทช. ไปแยกประเด็นการพิจารณาว่า เป็นประเด็นของบริษัทใด มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับสภาพความขัดแย้งของ ดร.พิรงรองฯ โดยตรงหรือไม่ มากน้อยเพียงใด เป็นกรณีความผิดร้ายแรงหรือไม่ แล้วจึงนำเข้ามาให้พิจารณา ดังนั้น การปรับปรุงมาตรการเฉพาะหลังควบรวม “ทรู-ดีแทค” จึงยังไม่มีการพิจารณาเกิดขึ้น
อีกประเด็นที่น่าจับตาในวันนี้ คือ การพิจารณาคุณสมบัติของผู้ยื่นซองประมูลคลื่นความถี่ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ ซึ่งทาง AIS และ true ได้ส่งบริษัทลูกมายื่นซองและเอกสารพิจารณาคุณสมบัติ
แหล่งข่าว จาก กสทช. เปิดเผยว่า เบื้องต้น สำนักงาน กสทช. ชี้ว่า มีบริษัทหนึ่งยังไม่ผ่านคุณสมบัติในการประมูล เนื่องจากเคยถูกศาลพิจาณาความผิดและต้องถูกยึดทรัพย์มาก่อน แต่ไม่มีรายละเอียดว่าเป็นคดีประเภทใด และถูกยึดทรัพย์อะไร
กรรมการ กสทช. จึงได้ขอให้สำนักงานไปนำคำสพิพากษาศาล และการบังคับยึดทรัพย์ในคดีดังกล่าวมากพิจารณาใหม่อีกครั้ง ในวันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ซึ่งจะเป็นการประชุม กสทช. ต่อเนื่องเพื่อพิจารณาคุณสมบัติผู้เข้าร่วมประมูล
“หากมีหนึ่งในผู้ขอเข้าร่วมประมูลไม่มีคุณสมบัติ จะทำให้มีผู้เข้าประมูลเพียงรายเดียว ซึ่งทางสำนักงาน กสทช. ยืนยันว่า มีเพียงรายเดียวก็สามารถจัดการประมูลได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นอาจทำให้กรรมการหลายท่านไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการดึงดันประมูล เพราะตอนนี้ ศาลปกครองก็ได้รับคำร้องของสภาผู้บริโภคในการยื่นฟ้อง ขอให้ศาลเพิกถอน ประกาศ กสทช. เรื่องการประมูลครั้งนี้แล้ว ซึ่งตอนนี้ได้ให้ทาง กสทช. เข้าไปชี้แจงการดำเนินการประมูลอยู่ ” แหล่งข่าวระบุ