กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) ได้ทบทวนประกาศควบคุมการส่งออกทรายโดยห้ามส่งออกสินค้าทรายธรรมชาติทุกชนิด ขอให้ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมก่อนประกาศใหม่จะมีผล ใช้บังคับ 11 พ.ย.66
โดย นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เผยว่า กรมการค้าต่างประเทศได้ดำเนินการทบทวนแก้ไขปรับปรุงมาตรการกำกับดูแลการส่งออกสินค้าทรายภายใต้ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ทรายเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2566 ลงวันที่ 28 เม.ย.66 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การค้าและเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
อีกทั้ง เพื่อให้เกิดความชัดเจน ลดปัญหาการใช้ดุลยพินิจ และอำนวยความสะดวกทางการค้า ประกอบกับลดความซ้ำซ้อนทางกฎหมายในการกำกับดูแลการส่งออก เนื่องจากปัจจุบันแร่ที่มีทรายเป็นส่วนประกอบได้กำหนดมาตรการภายใต้การกำกับดูแลของ พ.ร.บ. แร่ พ.ศ. 2560 แล้ว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.66 ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศกระทรวงพาณิชย์ข้างต้น ซึ่งมีสาระสำคัญกำหนด ห้ามส่งออกทรายทุกชนิด ตามพิกัดศุลกากร 25.05 ยกเว้นกรณีส่งออกเป็นตัวอย่างหรือศึกษาวิจัย หรือนำติดตัวออกไปเพื่อใช้เฉพาะตัวในปริมาณไม่เกิน 2 กิโลกรัม หรือกรณีส่งออกไปเพื่อใช้ในยานพาหนะปริมาณให้เป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.66 เป็นต้นไป
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวอีกว่า ทรายเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมคอนกรีต อุตสาหกรรมแก้วและกระจก และอุตสาหกรรมชิพซิลิคอนดักเตอร์ เป็นต้น โดยในปี 65 ไทยมีการส่งออกทราย ปริมาณ 885.11 ตัน มูลค่า 17.46 ล้านบาท ขณะที่มีการนำเข้าในปริมาณ 1,817,029 ตัน มูลค่า 1,326 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันทรายมีไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศทำให้ต้องพึ่งพาการนำเข้า
นอกจากนี้ ในการขุดทรายทำการค้าดังกล่าวมักจะทำให้เกิดปัญหาตลิ่งริมแม่น้ำพัง หากไม่มีการเตรียมความพร้อมด้านวัตถุดิบและยังคงมีการส่งออกตามเดิมในอนาคตอาจทำให้อุตสาหกรรมดังกล่าวสูญเสียความสามารถในการแข่งขันได้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนประกาศกระทรวงพาณิชย์ ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ จึงขอให้ผู้ประสงค์จะส่งออกสินค้าดังกล่าวศึกษาและทำความเข้าใจประกาศกระทรวงพาณิชย์ให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ
ทั้งนี้ การฝ่าฝืนประกาศกระทรวงพาณิชย์ ดังกล่าวจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกฯ พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สอบถามรายละเอียดได้ที่ DFT Call Center โทร 1385 หรือกองบริหารการค้าสินค้าทั่วไป โทร. 0 2547 5124