แบงก์ ยังไม่มีข้อมูลใบหน้าลูกค้าอีกเยอะ เตือนรีบอัปเดตภายใน มิ.ย.66

ธนาคาร เผย ยังไม่มีข้อมูลใบหน้าลูกค้าอีกเยอะ แนะรีบอัปเดตภายในเดือน มิ.ย.66 ก่อนเริ่มใช้จริง 1 ก.ค.66

เดือน มิ.ย.66 เป็นเดือนสุดท้ายที่สถาบันการเงินต้องเก็บข้อมูลใบหน้าของลูกค้า เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำธุรกรรมผ่านโมบายแบงก์กิ้ง โดยตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.66 ธนาคารส่วนใหญ่จะกำหนดให้การทำธุรกรรมโอนเงิน 50,000 ต่อครั้ง หรือ 200,000 บาทต่อวัน และปรับวงเงินตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต้องสแกนหน้า เพื่อการยืนยันตัวตน

เตือนแล้วนะ! โอนเงิน 50,000 บาท/ครั้ง 200,000 บาท/วัน ต้องไปแบงก์

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก การเงินการธนาคาร ระบุว่า ปัจจุบันธนาคารทยอยเก็บข้อมูลใบหน้าของลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง และอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบข้อมูลใบหน้าของตัวเองผ่านแอปพลิเคชั่นได้ แต่พบว่า ยังมีลูกค้าจำนวนมากที่ยังไม่เข้ามาอัปเดตใบหน้าที่สาขาของธนาคาร จึงอยากขอให้ลูกค้าที่ยังไม่ได้เข้ามาเก็บข้อมูลใบหน้ารีบภายในเดือน มิ.ย.66 นี้

สำหรับมาตรการสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนก่อนทำรายการเป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันภัยการเงิน โดยมีมาตรการอื่นที่ทยอยทำไปแล้ว เช่น งดการส่งลิงก์ทุกประเภทผ่านเอสเอ็มเอส อีเมล และงดส่งลิงก์ขอข้อมูลสำคัญ เช่น ชื่อผู้ใช้งาน รหัสผ่าน และเลขบัตรประชาชนผ่านโซเชียลมีเดีย จำกัดจำนวนบัญชีผู้ใช้งานโมบายแบงก์กิ้ง (ยูสเซอร์เนม) ของแต่ละสถาบันให้ใช้ได้ใน 1 อุปกรณ์เท่านั้น

ทั้งนี้ หลายธนาคารสามารถให้ลูกค้าตรวจสอบด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชั่นแล้วว่ามีข้อมูลใบหน้าพร้อมหรือไม่ คือ ธนาคารกรุงศรี ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ส่วนธนาคารอื่นกำลังอยู่ระหว่างปรับแอปพลิเคชั่น และธนาคารบางแห่งมีการแจ้งเตือนไปยังลูกค้าที่ไม่มีข้อมูลใบหน้าผ่านช่องทางต่างๆ แล้ว

อย่างไรก็ดี ตั้งแต่วันที่ 1  ก.ค.66 เป็นต้นไป หากลูกค้ายังไม่ได้อัปเดตใบหน้ายังสามารถทำธุรกรรมวงเงินอื่นได้ปกติ แต่จะไม่สามารถทำธุรกรรมที่มีวงเงินสูงกว่ากำหนดได้ แต่ยังสามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางอื่นของธนาคารได้ เช่น สาขา หรือเอทีเอ็ม

ไม่ต้องไปสาขา! 2 แบงก์ เปิดยืนยันตัวตน-สแกนหน้า ผ่านตู้ ATM
คลิปอีจันแนะนำ
28 ปี สู้ ส่วยสติ๊กเกอร์ ไร้เงาแก้ไข