มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ครู ปัจจันบันมีครูร่วมลงทะเบียนแก้หนี้ไปแล้วกว่า 4 หมื่นราย มูลค่าหนี้ 5.8 หมื่นล้านบาท!
วันนี้ (17 ก.ย. 65) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปี 2565 รัฐบาลตั้งเป้าให้เป็นปีแห่งการ แก้หนี้ภาคครัวเรือน ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าขับเคลื่อนโยบายของรัฐบาลแก้ไขปัญหาหนี้ครูอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม
โดยปัจจุบันพบว่ามีครูกว่า 9 แสนคนทั่วประเทศไทย หรือประมาณ 80% มีหนี้รวมกัน 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งมีเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุด ได้แก่
1. สหกรณ์ออมทรัพย์ครู 8.9 แสนล้านบาท
2. ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และสถาบันการเงินอื่นๆ รวม 3.49 แสนล้านบาท
นางสาวรัชดา กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูว่า ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูไปแล้ว ดังนี้
1. ลดดอกเบี้ยเงินกู้
ซึ่งมีสหกรณ์ออมทรัพย์ครู 70 แห่ง ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงเฉลี่ย 0.3% ลูกหนี้ได้รับประโยชน์กว่า 4 แสนราย รวมภาระหนี้สินลดลงกว่า 2.2 พันล้านบาท
2. ปรับโครงสร้างหนี้
โดยการรวมหนี้มาไว้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูฯ หรือ สถาบันการเงิน ที่ให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำกว่า เพื่อให้ครูมียอดชําระต่อเดือนน้อยลง และเหลือเงินเดือนหลังหักชําระไม่ต่ำกว่า 30%
3. กําหนดให้สามารถหักเงินสวัสดิการ
ให้สามารถหักเงินสวัสดิการการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค) ในกลุ่มแรก (ร้อยละ 70 ของเงินเดือน) เพื่อให้สามารถใช้เงิน ช.พ.ค เป็นหลักประกันเงินกู้ได้ ซึ่งปัจจุบันมีครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 3.6 แสนราย ที่ใช้ ช.พ.ค เป็นหลักประกันเงินกู้ ส่งผลให้ครูไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อทำประกัน ช่วยลดค่าใช้จ่ายลงกว่า 2.3 พันล้านบาท
และสำหรับการแก้ไขปัญหาหนี้ครูผ่าน สถานีแก้หนี้ 588 แห่งทั่วประเทศนั้น นางสาวรัชดา กล่าวว่า ขณะนี้มี ครูลงทะเบียนแก้หนี้แล้วกว่า 4 หมื่นคน มูลค่าหนี้รวมกว่า 5.8 หมื่นล้านบาท สามารถแก้ปัญหาหนี้ไปแล้ว 11,090 คน หรือประมาณ 1 ใน 4 ของผู้ลงทะเบียน
ส่วนที่เหลือ กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับธนาคารออมสินและสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจะจัด มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ “ปิดเทอม เรื่องหนี้ มีทางออก” เป็นเวทีกลางเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย นำร่องที่จังหวัดกำแพงเพชร เริ่ม 4 ตุลาคม 2565 เพื่อขยายผลจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ครูในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก: รัฐบาลไทย
คลิปแนะนำอีจัน
แดดประเทศไทย โคตรแรง!