ครม.เคาะแล้ว ยืดเวลาเราชนะ อีก 1 เดือน แจก 7 พัน อีก 2.4 ล้านคน

เคาะแล้วจ้า เราชนะเฟส 3 มาแน่! ครม.เคาะแล้ว ยืดเวลาเราชนะ อีก 1 เดือน แจก 7 พัน อีก 2.4 ล้านคน

เคาะแล้วจ้า เราชนะเฟส 3 มาแน่!

หลังจากเมื่อวานนี้ 19 เม.ย.2564 กระทรวงการคลัง จ่อเสนอแนวทางให้ความช่วยเหลือและเยียวยาประชาชน จากผลกระทบโควิด-19 เพิ่มเงินในมาตรการ “เราชนะ” ออกไปอีก 1-2 เดือน จากเดิมที่สิ้นสุดในวันที่ 31 พ.ค.นี้ เป็นสิ้นสุดเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้ ซึ่งจะใช้เงินเพิ่ม 100,000-200,000 ล้านบาท และดำเนินการต่อเนื่องได้ทันที

ล่าสุดวันนี้ 20 เม.ย.2564 เพจเฟซบุ๊ก รัชดา ธนาดิเรก – รองโฆษกรัฐบาล โพสต์อัปเดตหลังจาก การแถลงข่าวของนายกฯรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ตึกไทยคู่ฟ้าธรรมเนียบรัฐบาลว่า ครม.เห็นชอบขยายเวลาโครงการไปจนถึง 30 มิ.ย. จากเดิมสิ้นสุด 31 พ.ค.

ผู้ได้สิทธิ์มีจำนวนทั้งหมด 33.5 ล้านคน กรอบวงเงินงบประมาณ 2.13 แสนล้านบาท

โอนเงินร้านค้าให้เสร็จสิ้น 1 ก.ค.

ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ เพื่อให้ผู้ที่มีคุณสมบัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของโครงการสามารถได้รับความช่วยเหลือตามโครงการและสามารถใช้จ่ายวงเงินที่ได้รับภายในระยะเวลาที่เหมาะสมตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้

1. ขยายกลุ่มเป้าหมายและกรอบวงเงินของโครงการจากกลุ่มเป้าหมายจำนวนประมาณ 31.1 ล้านคน กรอบวงเงินไม่เกิน 210,200 ล้านบาท เป็นกลุ่มเป้าหมายจำนวนประมาณ 33.5 ล้านคน หรือเพิ่มอีก 2.4 ล้านคน ใช้กรอบวงเงินไม่เกิน 213,242 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3,042 ล้านบาท

2. ขยายระยะเวลาใช้วงเงินสนับสนุนสำหรับผู้ได้รับสิทธิ์ตามโครงการจาก สามารถใช้จ่ายได้ไม่เกินวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 เป็นใช้จ่ายได้ไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2564

ซึ่งก่อนหน้านี้ โครงการเราชนะ

มีประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 73,133 ล้านบาท

2. ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ .com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 112,772 ล้านบาท และประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.3 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 14,039 ล้านบาท

ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ แล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.8 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 199,944 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ

ลุ้นกันต่อค่ะ 2.4 ล้านคน เราจะเป็น 1 ในนั้นไหม ถ้ามีความคืบหน้าจันจะรีบนำมาแจ้งนะคะ