หลังจากอีจัน ตะลุยป่าละอู จึงพบว่าชาวบ้านจะทำสวนปลูกทุเรียนกันเป็นหลัก และจันก็รู้มาว่าที่นี่มีสหกรณ์ทุเรียน รับซื้อทุเรียนจากชาวสวนที่เป็นสมาชิก
จันมีโอกาสไปดูบรรยากาศซื้อขายทุเรียนป่าละอู ที่ สหกรณ์การเกษตรห้วยสัตว์ใหญ่.จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กับด่านตรวจของตำบล ได้เห็นบรรดาชาวสวนขนทุเรียนป่าละอูใส่ตะกร้าใบใหญ่กันมาเต็มคันรถ
พอชาวสวนขนทุเรียนมาถึง อย่างแรกที่จันเห็นคือ คัดไซส์ แยกเกรดทุเรียน ซึ่งจะมีมาตรฐานกำหนดไว้ทั้งหมด 3 เกรดคือ
1. เกรด A ทุเรียนจะต้องมีน้ำหนักตั้งแต่ 2.70-5 กิโลกรัม และต้องมีพูทุเรียน 3 เต็ม จาก 4 พูขึ้นไป
2. เกรด B ทุเรียนจะต้องมีน้ำหนักตั้งแต่ 2-2.69 กิโลกรัม
3. เกรด C น้ำหนักน้อยกว่า 2 กิโลกรัม และตั้งแต่ 6.01-8 กิโลกรัม
หากทุเรียนมีน้ำหนักมากกว่า 8 กิโลกรัมขึ้นไปสหกรณ์จะไม่รับซื้อ เพราะปัจจัยทางด้านราคา และรสชาติของทุเรียนที่อาจจะแปลกไป
ราได้พูดคุยกับพี่นาท ภู่ทอง ผู้จัดการสหกรณ์ฯ ให้ข้อมูลกับเราว่า มีสมาชิกชาวเกษตรกรสวนทุเรียนป่าละอู ทั้งหมด 60 กว่าราย แต่ละปีที่เป็นฤดูกาลทุเรียนป่าละอู ก็จะมีชาวสวนที่เป็นสมาชิกขนทุเรียนมาขายกับสหกรณ์ฯ ซึ่งสหกรณ์จะทำการส่งขายต่อให้กับลูกค้าที่สั่งจองเข้ามา แต่ก่อนที่ชาวสวนจะนำมาขายให้สหกรณ์จะมีการประชุมเสนอราคากันภายในกลุ่มเกษตรก่อน ว่าตกลงขายที่กิโลกรัมละเท่าไหร่ จึงนะนำมาขายให้สหกรณ์
โดยสถิติปี 63 สหกรณ์สามาขายทุเรียนได้เพียง 20 ตัน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดทำให้ คนเดินห้างน้อย เพราะลูกค้ารายใหญ่ส่วนมากเป็นห้างสรรพสินค้า เช่น Tops หรือ พารากอน จึงทำให้ยอดขายไม่สู้ดีนัก สำหรับปีนี้คาดว่าจะสามารถขายทุเรียนป่าละอู ของสมาชิกได้มากถึง 70 ตัน
สำหรับลูกเพจชาวกรุงฯ คนไหน อยากกินทุเรียนป่าละอู แท้ๆ และอยากคัดเลือกลูกเอง สามารถหาซื้อได้ที่ห้างชั้นนำ เช่น Tops ได้เลยนะคะ จะมีสติ๊กเกอร์บอกว่า มาจากสหกรณ์การเกษตรห้วยสัตว์ใหญ่ ค่ะ