สหกรณ์การเกษตรห้วยสัตว์ใหญ่ คึกคัก ชาวสวน ทุเรียนป่าละอู ขนมาขายเต็มกระบะ ตั้งเป้า 70 ตัน ถึงคน กทม.

เกษตรกร ยิ้มร่า สหกรณ์การเกษตรห้วยสัตว์ใหญ่ คึกคัก ชาวสวน ทุเรียนป่าละอู ขนมาขายเต็มกระบะ ตั้งเป้า 70 ตัน ถึงคน กทม.

หลังจากอีจัน ตะลุยป่าละอู จึงพบว่าชาวบ้านจะทำสวนปลูกทุเรียนกันเป็นหลัก และจันก็รู้มาว่าที่นี่มีสหกรณ์ทุเรียน รับซื้อทุเรียนจากชาวสวนที่เป็นสมาชิก

จันมีโอกาสไปดูบรรยากาศซื้อขายทุเรียนป่าละอู ที่ สหกรณ์การเกษตรห้วยสัตว์ใหญ่.จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กับด่านตรวจของตำบล ได้เห็นบรรดาชาวสวนขนทุเรียนป่าละอูใส่ตะกร้าใบใหญ่กันมาเต็มคันรถ

พอชาวสวนขนทุเรียนมาถึง อย่างแรกที่จันเห็นคือ คัดไซส์ แยกเกรดทุเรียน ซึ่งจะมีมาตรฐานกำหนดไว้ทั้งหมด 3 เกรดคือ

1. เกรด A ทุเรียนจะต้องมีน้ำหนักตั้งแต่ 2.70-5 กิโลกรัม และต้องมีพูทุเรียน 3 เต็ม จาก 4 พูขึ้นไป

2. เกรด B ทุเรียนจะต้องมีน้ำหนักตั้งแต่ 2-2.69 กิโลกรัม

3. เกรด C น้ำหนักน้อยกว่า 2 กิโลกรัม และตั้งแต่ 6.01-8 กิโลกรัม

หากทุเรียนมีน้ำหนักมากกว่า 8 กิโลกรัมขึ้นไปสหกรณ์จะไม่รับซื้อ เพราะปัจจัยทางด้านราคา และรสชาติของทุเรียนที่อาจจะแปลกไป

ราได้พูดคุยกับพี่นาท ภู่ทอง ผู้จัดการสหกรณ์ฯ ให้ข้อมูลกับเราว่า มีสมาชิกชาวเกษตรกรสวนทุเรียนป่าละอู ทั้งหมด 60 กว่าราย แต่ละปีที่เป็นฤดูกาลทุเรียนป่าละอู ก็จะมีชาวสวนที่เป็นสมาชิกขนทุเรียนมาขายกับสหกรณ์ฯ ซึ่งสหกรณ์จะทำการส่งขายต่อให้กับลูกค้าที่สั่งจองเข้ามา แต่ก่อนที่ชาวสวนจะนำมาขายให้สหกรณ์จะมีการประชุมเสนอราคากันภายในกลุ่มเกษตรก่อน ว่าตกลงขายที่กิโลกรัมละเท่าไหร่ จึงนะนำมาขายให้สหกรณ์

โดยสถิติปี 63 สหกรณ์สามาขายทุเรียนได้เพียง 20 ตัน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดทำให้ คนเดินห้างน้อย เพราะลูกค้ารายใหญ่ส่วนมากเป็นห้างสรรพสินค้า เช่น Tops หรือ พารากอน จึงทำให้ยอดขายไม่สู้ดีนัก สำหรับปีนี้คาดว่าจะสามารถขายทุเรียนป่าละอู ของสมาชิกได้มากถึง 70 ตัน

สำหรับลูกเพจชาวกรุงฯ คนไหน อยากกินทุเรียนป่าละอู แท้ๆ และอยากคัดเลือกลูกเอง สามารถหาซื้อได้ที่ห้างชั้นนำ เช่น Tops ได้เลยนะคะ จะมีสติ๊กเกอร์บอกว่า มาจากสหกรณ์การเกษตรห้วยสัตว์ใหญ่ ค่ะ