พ่อค้าแม่ค้าในโรงอาหาร ตลาดน้อย เดินหน้าชูป้ายประท้วง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กรณี แผงขายอาหาร ขึ้นค่าเช่าเป็นเท่าตัว!
วันนี้ (21 ก.ค. 65) กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในโรงอาหารกลาง (ตลาดน้อย) พื้นที่วิทยาเขตขามเรียง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ต.ขามเรียง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ได้หยุดขายอาหารมาเดินขบวนประท้วงผู้บริหารจาก ตลาดน้อย ไปที่หน้า อาคารบรมราชกุมารี สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เพื่อเรียกร้องขอพบผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหาสารคาม หลังจากที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องการยกเลิกสัญญาเช่าเดิม การขึ้นค่าเช่าแผงเท่าตัว และเปิดประมูลใหม่ทั้งหมด ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่เพิ่งจะฟื้นตัวจาก โควิด ในรอบ 2 ปี ได้รับผลกระทบอย่างมาก!
พ่อค้าแม่ค้า บอกว่า พวกเรามีกันกว่า 200 ชีวิต บางรายขายมาตั้งแต่ปี 2548 เพิ่งฟื้นจากสถานการณ์โควิด ไม่ได้ขายของเลย 2 ปีเต็ม เพราะสถานศึกษาเปิดเรียนแบบออนไลน์ เพิ่งได้เปิดร้านขายในมหาวิทยาลัยฯ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 65
แต่ทางกลุ่มงานจัดหารายได้และผลประโยชน์ กองคลังและพัสดุ ของมหาวิทยาลัยฯจะเรียกเก็บค่าเช่าอัตราใหม่สูงขึ้นเป็นเท่าตัวทุกล็อก!
ด้วยเหตุผลที่ว่า มหาวิทยาลัยฯได้ปรับปรุง โรงอาหารตลาดน้อย ทำให้มีการเรียกเก็บในราคาใหม่ร้านอาหารตามสั่ง จากล็อกละ 6,000 บาท เป็น12,000 บาท/เดือน
ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าที่มาประท้วง ยังบอกอีกว่า ได้ยื่นขอความช่วยเหลือไปแทบทุกที่ๆสามารถยื่นได้แต่ก็ไม่เป็นผล จึงต้องออกมาเรียกร้องกันเองในวันนี้ อยากจะให้มหาวิทยาลัยฯช่วยขึ้นค่าล็อกแบบขั้นบันไดได้ไหมไม่ใช่ขึ้นที่เดียวเลยแบบนี้ และจะให้พ่อค้าแม่ค้าที่จะมาขายต้องมีการประมูลก่อน
ส่วนเงินประกันสัญญาที่พ่อค้าแม่ค้าได้จ่ายไปนั้นประมาณ 12,000 บาท ยังไม่ได้คืนสักคนตั้งแต่ปี 2562 อ้างว่ามีการทุจริตจากทางด้านบุคลากรของมหวิทยาลัย ซึ่งในส่วนนี้คงต้องรอให้ทางมหาวิทยาลัยตรวจสอบก่อน ว่ามีการกระทำตามคำอ้างนี้จริงหรือไม่
ไม่นานหลังการประท้วง ผศ.ดร.กนกพร รัตนสุธีระกุล รองอธิการบดีฝ่ายการคลังและพัสดุ ได้ลงมาเจราจาและรับหนังสือกับตัวแทนพ่อค้าแม่ค้าทีได้เรียกร้อง 4 ประเด็น คือ
1. ไม่ให้เปิดการประมูล
2. พิจารณาค่าเช่าใหม่
3. เร่งตามเงินประกันสัญญาที่คงค้างไว้ตั้งแต่ปี 2562
4. ขอให้ต่อสัญญากับผู้ประกอบการรายเก่าเป็นเวลา 5 ปี หลังประสบปัญหาโควิด
ล่าสุด เวลาประมาณ 12.30 น. รองศาสตราจารย์ ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสาคาม ได้เข้ามาร่วมตกลงและเจรจาหารือเพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน ณ ห้องประชุม 1 อาคารบรมราชกุมารี โดยได้ข้อสรุปและเป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย ดังนี้
1. ยอมรับเงื่อนไข ต่อสัญญา การใช้พื้นที่ ระยะเวลา 1 ปี(1 ตุลาคม 2565-30 กันยายน 2566) โดยให้คงอัตราค่าเช่าเดิม
2. จะพิจารณาทบทวนปรับลดอัตราค่าเช่าที่เหมาะสม รอฟังประกาศพิจารณาตามมติที่ประชุมคณะกรรมการจัดหารายได้และจัดหาผลประโยชน์
3. กรณี ผู้ประกอบการกับมหาวิทยาลัย ตกลงอัตราที่เหมาะสมแล้วมหาวิทยาลัยจะพิจารณาขยายการต่อสัญญาอีก 2 ปี
ภายหลังจากเสร็จสิ้นการเจรจา กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าทุกคนก็ยอมรับเงื่อนไขดังกล่าวและให้มหาวิทยาลัยออกหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร และจะกลับไปเปิดขายอาหารตามปกติในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค. 65)