แบงก์ชาติ ปรับเกณฑ์คลินิกแก้หนี้ใหม่ ค้างจ่ายเกิน120วัน ร่วมโครงการได้

คนเป็นหนี้เตรียมเฮ! คลินิกแก้หนี้ ปรับเกณฑ์ใหม่ ค้างจ่ายเกิน 120 วัน ร่วมโครงการได้

‘หนี้ครัวเรือน’เป็นปัญหาที่สะสมมานาน แม้ระดับหนี้ครัวเรือนในปัจจุบันจะมีสัดส่วนลดลง เมื่อเทียบกับจีดีพีประเทศ ณ ไตรมาส 3 ปี 2565 ที่ระดับ 86.8% ต่อจีดีพี ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ มีเป้าหมายที่จะทำให้หนี้ครัวเรือนไทยลดลงเข้าระดับที่เหมาะสม ที่จะไม่สร้างปัญหาให้กับเศรษฐกิจไทยในอนาคต

ขณะเดียวกัน ก็มีอีกหนึ่งอย่างที่มาพร้อมกับหนี้ครัวเรือน คือคนที่ไม่สามารถผ่อนหนี้ได้ไหวจนทำให้ตัวเองค้างชำระมากเกิน 90 วันหรือที่เรียกว่า หนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) ส่วนใหญ่กลุ่มคนเหล่านี้มีหนี้เกินตัว ก่อหนี้เกินกว่ารายได้ ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ได้ จนเกิด NPL ซึ่งได้สร้างปัญหาให้กับสังคมและประเทศในที่สุด

หนึ่งในเครื่องมือที่สามารถช่วยให้กลุ่มคนที่มีหนี้ NPL ได้ลืมตาอ้าปาก และเคลียร์หนี้ได้หมด คือ โครงการคลินิกแก้หนี้ ซึ่งได้เริ่มต้นมาตั้งแต่กลางปี 2560 จนถึงปัจจุบัน

ล่าสุด นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยว่า แม้ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยโดยรวมจะปรับดีขึ้น แต่ครัวเรือนบางส่วนยังเปราะบางจากค่าครองชีพและภาระหนี้ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะลูกหนี้กลุ่มบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันและมีเจ้าหนี้หลายราย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังต้องการความช่วยเหลือในการแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน

คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการคลินิกแก้หนี้ จึงปรับเกณฑ์คุณสมบัติให้ลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระมากกว่า 120 วันขึ้นไป สามารถเข้าร่วมโครงการได้ จากเดิมที่ต้องมีสถานะเป็นหนี้เสียก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เท่านั้น รวมทั้งให้สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ลูกหนี้รู้จักโครงการและรับทราบสิทธิในการสมัครเข้าร่วม เพื่อให้ลูกหนี้มีโอกาสแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น ก่อนที่จะถูกขายหนี้หรือถูกบังคับคดี

นอกจากนี้ โครงการได้เพิ่มทางเลือกแผนการชำระหนี้ให้กับลูกหนี้ในโครงการที่เริ่มมีปัญหาในการผ่อนชำระ ซึ่งหากผิดนัดชำระซ้ำจะต้องกลับไปดำเนินการแก้ไขหนี้โดยตรงกับเจ้าหนี้ โดยโครงการจะพิจารณาเหตุผลความจำเป็น เพื่อแนะนำแผนการชำระหนี้ใหม่ที่เหมาะสมให้กับลูกหนี้เป็นรายกรณี เพื่อให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้ต่อเนื่องจนปลดหนี้ได้ในที่สุด ทั้งนี้ การปรับแผนการชำระหนี้ดังกล่าวจะจำกัดจำนวนครั้งและความถี่ อีกทั้งในระยะแรกของการปรับโครงสร้างหนี้ โครงการมีเงื่อนไขไม่ให้ลูกหนี้ก่อหนี้ใหม่ เพื่อสร้างวินัยและความรับผิดชอบ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกหนี้ได้อย่างยั่งยืน

สำหรับลูกหนี้ที่ยังมีความสามารถชำระได้ ธปท. แนะนำให้ชำระหนี้ต่อไปเพื่อไม่ให้เป็นหนี้เสีย ซึ่งจะกระทบประวัติทางการเงินและความสามารถในการกู้ยืมในอนาคต

การปรับปรุงโครงการดังกล่าว จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป ประชาชนที่สนใจสามารถติดตามข่าวสาร หรือสมัครผ่านเว็บไซต์ (www.คลินิกแก้หนี้.com) LINE (@debtclinicbysam) และ Facebook (คลินิกแก้หนี้ by SAM) รวมทั้ง Call Center โทร. 1443 ได้ทุกวัน เวลา 09.00-19:00 น.

นอกจากนี้ ประชาชนสามารถสอบถามหรือสมัครเข้าร่วมโครงการได้ในงานมหกรรมการเงิน Money Expo (มหกรรมการเงินฯ) ระหว่างวันที่ 11-14 พฤษภาคม 2566 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี หรือ มหกรรมการเงินฯ ที่จะจัดขึ้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งจะประชาสัมพันธ์ถึงกำหนดการและสถานที่เพื่อทราบต่อไป