‘เศรษฐา’ เวลคัมทัวร์จีนกลุ่มแรก แจกกางเกงช้าง หลังเข้าไทยแบบฟรีวีซ่า

เผยแพร่เมื่อ : 25 ก.ย. 2566, 14:26

หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 ก.ย.66 มีมติอนุมัติฟรีวีซ่าของจีน และคาซัคสถาน เพื่อกระตุ้นมาตรการการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น วันนี้ (25 ก.ย.66) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จัดพิธีต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เที่ยวบิน XJ 761 สายการบิน Thai AirAsia X เส้นทางบินตรงเซี่ยงไฮ้-สุวรรณภูมิ

ซึ่งมีผู้โดยสารทั้งหมด 341 ราย ถือเป็นเที่ยวบินแรกของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจากรัฐบาลไทยได้ประกาศใช้มาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) หรือวีซ่าฟรี เพื่อการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางสัญชาติจีนและคาซัคสถาน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.66-29 ก.พ.67

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานในพิธี เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดพิธีต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนและสาธารณรัฐคาซัคสถาน ณ ท่าอากาศยานสำคัญ 4 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานภูเก็ต

โดยแต่ละพื้นที่ได้จัดพิธีต้อนรับ การแสดงศิลปวัฒนธรรม พร้อมมอบพวงมาลัยและของที่ระลึก เพื่อต้อนรับสร้างความประทับใจและแสดงถึงความพร้อมในการเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของการท่องเที่ยว

“สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวตั้งแต่ก้าวแรกถึงก้าวสุดท้าย รวมถึงมีความประทับใจในการเข้ามาเที่ยวไทยด้วย ซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้นพบว่า ยอดจองล่วงหน้าเพิ่มขึ้นแบบหลายสิบเท่าตัว บวกกับมีการเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ท่องเที่ยวของไทยด้วย โดยเราต้องการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวไทย ไม่ใช่แค่เพียงเมืองหลักอย่างเชียงใหม่ กรุงเทพฯ พัทยา หรือภูเก็ต เท่านั้น

แต่จะกระตุ้นให้ไปเที่ยวเมืองรองมากขึ้น อยู่เที่ยวในประเทศไทยนานขึ้น เพื่อให้มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยได้เห็นว่าการตรวจเอกสารตรวจคนเข้าเมืองทำได้อย่างรวดเร็ว การขนส่งกระเป๋าเดินทางใบแรกลงสายพานก็ทำได้ดี ซึ่งถือว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนมีส่วนช่วยทำให้วันนี้ถือเป็นวันที่ดีหนึ่งวันของประเทศไทย และหวังว่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป” นายเศรษฐากล่าว

ทั้งนี้ นายเศรษฐา กล่าวว่า การพลิกฟื้นเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยว ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เพราะการท่องเที่ยวจะเป็นกุญแจดอกแรกในการสร้างรายได้ที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างงานให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก หนึ่งในมาตรการ Quick Win คือ มาตรการเชิงรุกด้านการอำนวยความสะดวกในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย (Ease of Traveling) ผ่านมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption)

สำหรับผู้ที่ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางสัญชาติจีนและคาซัคสถาน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.66-29 ก.พ. 67 ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 18 ก.ย.66 ซึ่งทั้งสองตลาดถือเป็นตลาดศักยภาพและมีอัตราการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญต่อการฟื้นฟูภาพรวมการท่องเที่ยวไทย เพื่อสะท้อนถึงศักยภาพด้านการท่องเที่ยว และส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า รัฐบาลเชื่อมั่นว่า มาตรการดังกล่าวจะเข้ามาเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และจะช่วยพลิกฟื้นการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้กลับมาอีกครั้ง เนื่องจากจะช่วยคลี่คลายข้อจำกัดในการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีน ทั้งเรื่องระยะเวลาและค่าใช้จ่ายส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยได้ง่ายขึ้น

โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัว กลุ่มทัวร์ และกลุ่ม Incentive ประกอบกับช่วงเวลาดำเนินมาตรการ ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ครอบคลุมช่วง Golden week ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมออกเดินทางท่องเที่ยว ต่อเนื่องถึงช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่จะยิ่งช่วยผลักดันสู่เป้าหมายภาพรวมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ตั้งไว้ของปี 66 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25-30 ล้านคน และสร้างรายได้จากตลาดต่างประเทศ ให้กลับมาในอัตรา 80% ของปี 62 ที่ 1.5 ล้านล้านบาท พร้อมมุ่งสู่เป้ารายได้รวม 2.38 ล้านล้านบาท

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.คาดการณ์ว่า มาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) จะสามารถกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีน ให้เดินทางเข้าประเทศไทยประมาณ 5 ล้านคนในปี 66 และผลักดันรายได้ตลาดนักท่องเที่ยวจีนสู่เป้าหมาย 3 แสนล้านบาท ขณะที่ คาดว่าในช่วง 5 เดือนที่มีมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศประมาณ 2,888,500 คน สร้างรายได้ 140,313 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการฟื้นตัว 62% เมื่อเทียบกับปี 2562

ขณะที่คาดว่านักท่องเที่ยวคาซัคสถานจะเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 150,000 คนในปี 66 และคาดว่าในช่วง 5 เดือนของการยกเว้นการตรวจลงตราจะมีนักท่องเที่ยวคาซัคสถานจำนวนประมาณ 129,485 คน เพิ่มขึ้น 49.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา สร้างรายได้ประมาณ 7,930 ล้านบาท