ตามที่ รายการเจาะลึกทั่วไทย เปิดโผรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ขณะนี้มีความชัดเจนแล้ว 88% ดังนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นั่งควบกระทรวงการคลัง, นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ขณะที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายประเสริฐ จันทรวงทอง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)
ส่วนกระทรวงอุตสาหรรม และกระทรวงแรงงาน นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างต่อรอง
ด้าน นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย ให้สัมภาษณ์กับ ‘อีจัน’ ว่า เบื้องต้นทราบจากโผว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ จะมานั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จากเดิมที่คาดว่าจะเป็น ร.อ.ธรรมนัส
“ผมก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เขาส่งมาเราไม่ได้เลือก ซึ่งส่วนตัวและคนในกระทรวงเองก็คิดว่ากระทรวงแรงงานไม่มีใครอยากมา เพราะเป็นกระทรวงเกรด C ดังนั้น จึงจะเป็นใครก็ได้ เพราะทุกคนก็ไม่มีใครรู้เรื่องแรงงาน แต่จริงๆ แล้วมองว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เก่งที่สุด เพราะรู้รายละเอียดทั้งฝั่งลูกจ้างและนายจ้าง” นายธนิต กล่าว และว่า
“ส่วนสเปกจะเป็นยังไงนั้น ก็ต้องเป็นคนที่พอรู้เรื่องแรงงาน และต้องอยู่ตรงกลางทั้งลูกจ้างและนายจ้าง เพราะกระทรวงแรงงานไม่ได้ทำหน้าที่คุ้มครองสวัสดิการแรงงานอย่างเดียว ยังมีหน้าที่ส่งเสริมนายจ้างด้วย เพราะนายจ้างเป็นแหล่งจ้างงาน หากนายจ้างเจ๊งก็อยู่ไม่ได้ อีกทั้ง รัฐมนตรียังมีบทบาทสำคัญในการนำเสนออัตราค่าแรงขั้นต่ำ ฉะนั้น จึงอยากได้คนที่มีความเข้าใจ ยังกลัวอยู่ว่า ถ้าคนที่มาแล้วเขาเล่นการเมือง และเน้นเสียงโหวตอย่างเดียว เขาก็จะไม่สนใจด้านเศรษฐกิจ”
นายธนิต กล่าวว่า ทั้งนี้ เรื่องการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทภายในปี 2570 นั้น ก็เฉลี่ยอยู่ที่ 22,000 บาท/ปี/คน ถ้ามีพนักงาน 200 คน ก็ 4,500,000 บาท หากเป็นโรงงานขนาดใหญ่และมีกำไรก็จะลดกำไร แต่หากเป็นเอสเอ็มอี ที่จะเจ๊งไม่เจ๊งแหล่ และขาดทุนอยู่แล้ว ก็จะเป็นก็จะเป็นการซ้ำเติม ถ้าพรรคเพื่อไทยยังคุ้นชินกับการดำเนินการทีเดียวทั่วประเทศ เหมือนที่ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทในอดีต ทำให้ต่างจังหวัดไม่เกิดการจ้างงาน นักลงทุนย้ายฐานการผลิตอีก
“ฝากพรรคเพื่อไทยว่า ค่าแรงขั้นต่ำแต่ละจังหวัดต้องแตกต่างกัน เพื่อส่งเสริมให้ต่างจังหวัดเกิดการจ้างงาน ทีแรงงานเรียกร้องว่าต้องเท่ากันนั้น บางทีเขาไม่เข้าใจ ไม่สามารถดึงความเหลื่อมล้ำมาเปรียบเทียบในเรื่องนี้ได้ แม้แต่สหรัฐฯเองก็แตกต่างกันหมด” นายธนิต กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ยับ! โผ “ครม.เศรษฐา 1” เพื่อไทยเสียหลายกระทรวงหลักโผ “ครม.เศรษฐา 1” พรรคเพื่อไทย เหลือกระทรวงอะไรในอ้อมกอดบ้าง