คำว่าคนไทยเราเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลกนั้นคงไม่ไกลห่างจากความเป็นจริงเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะเรื่องอาหารที่บอกเลยว่าเรื่องทักษะไม่เป็นสองรองใคร ! ยิ่งเรื่องการพลิกแพลง ดัดแปลง ทำให้ของที่อร่อยอยู่แล้วอร่อยมากขึ้นยิ่งไปอีก คนไทยเราล่ะที่หนึ่งเลยอย่างเช่นวันนี้ที่ทีมงาน จันลั่นทุ่ง ของเราจะนำเสนอคือเรื่องของ ทุเรียนเชื่อม หลายคนอาจสงสัยว่า ทุเรียน ก็หวานอยู่แล้วยังจะเอามาเชื่อมแล้วมันจะกินได้เหรอลองมาหาคำตอบกันค่ะ
ทุเรียนเชื่อมที่พูดถึงนี้เป็นทุเรียนเชื่อมที่เขาบอกว่าเป็นสุดยอดของดีจากเมืองจันท์ ฟังแว้บเเรกก็ว่าเวอร์น้า จะอร่อยอะไรขนาดนั้น หวานปะทะหวาน ไม่เท่ากับเบาหวานเหรอ แต่เมื่อพวกเราได้เข้าไปเยี่ยมชมสวนแม่น้ำค้างที่จังหวัด จันทบุรี จนได้ลองชิมก็เลยรู้เลยค่ะว่ามันกินได้จริงแถมอร่อยสุด ๆ ไปเลยจ้ะ
หน้าตาของทุเรียนเชื่อมดูผ่าน ๆ ก็คล้ายมันเชื่อมทั่ว ๆ ไปตามท้องตลาดที่เราเคยได้กินเคยได้เห็นกัน แต่เมื่อได้เอาช้อนตัด เนื้อทุเรียนเข้าไปสัมผัสแรกให้ถึงความนุ่มของเนื้อทุเรียน เมื่อตักเข้าปากก็จะได้กินทุเรียนอ่อน ๆ ไม่ฉุนไม่เหม็นอันนี้คนที่ไม่ชอบกลิ่นทุเรียนลองได้คอนเฟิร์ม ! ในส่วนของรสชาติก็หวานละมุนอ่อน ๆ ไม่หวานจัดจนแสบคอ กินแบบแช่เย็นนะโอ้โหสดชื่นเหมือนยืนบนไหล่เขาไปเลย !
ซึ่งแม่น้ำค้างผู้ที่เป็นเจ้าของสวนทุเรียนที่ลงมือปลูกกันเองในครอบครัวบอกว่าที่ทำทุเรียนเชื่อมออกมาเพราะต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับทุเรียนเพราะทุเรียนที่นำมาเชื่อมเป็นทุเรียนตกไซซ์บ้าง หรือลูกภายนอกดูไม่สวยแต่เนื้อข้างในนี้นี้อย่างแจ๋ว ! กินได้อยู่แต่เพียงขายแบบสดเป็นลูกมันไม่ได้ราคา ซึ่งมีมากจนต้องนำมาแปรรูป มาถนอมอาหาร เพื่อเพิ่มมูลค่าของทุเรียนจ้า ถามว่าทำไมไม่เอามาแปรรูปเป็นทุเรียนทอด แม่น้ำค้างบอกเราว่ามันธรรมดาเกินไป อยากเชื่อมเพื่อให้คนทั่วไปได้ลองชิมของอร่อยเด็ดมากกว่า
วิธีทำก็ไม่ยากใครอยากทำตามเชิญเลย ซึ่งแม่น้ำค้างเราก็ไม่หวงสูตร บอกหมด
1. ตัดทุเรียนหมอนทอง (ต้องเป็นหมอนทองเท่านั้นนะ แม่น้ำค้างย้ำมา) ที่ความสุกอยู่ที่ 80% ซึ่งความสุกขนาดนี้ทุเรียนจะยังแข็ง ยังคงเป็นแป้ง เป็นเหตุที่ทำให้ทุเรียนเชื่อมเสร็จไม่เละ มีความแน่นหนึบในตัว
2. ปอกทุเรียนให้ดี เอาเม็ดทิ้งด้วย อันนี้จะสวยไม่สวยอยู่ที่ทักษะแต่ละคน
3.แช่น้ำปูนใส แล้วแต่เนื้อทุเรียนแต่ละครั้งแต่แช่ได้ตั้งแต่ 3 ชั่วโมงถึง 1 คืน แช่เสร็จล้างออก
4. เอาทุเรียนใส่กระทะเชื่อมพร้อมใส่น้ำตาล สูตรคือ 1 ต่อ 1 ใส่น้ำพอประมาณ
5. เคี่ยว 3 ชั่วโมงโดยต้องคอยดูแลตลอด อย่าทอดทิ้งกัน !
6. ทิ้งให้เย็นก็กินได้ อย่างที่บอกจะกินอุ่นก็ดี กินเย็นก็สดชื่น
ซึ่งจุดเด่นของทุเรียนเชื่อมแม่น้ำค้างนั้น ใช้ทุกอย่างที่เป็นวัสดุจากธรรมชาติทั้งสิ้น เก็บในน้ำเชื่อมพร้อมภาชนะปิดกันลมอ่างดีอยู่นอกตู้เย็นได้สบาย ๆ เลย 4 วัน แต่ถ้าแช่ตู้เย็นก็อยู่กันยาว ๆ เป็นเดือนเลยจ้าคุณพี่
เสียดายที่ไม่มีภาพที่ทีมจันลั่นทุ่งเราไปโซ้ยทุเรียนเพราะมันหมดก่อนที่จะตั้งสติได้ว่าต้องถ่ายภาพมาฝากกัน ไม่ว่ากันนะคนดีของน้อง ซึ่งหากใครสนใจกินทุเรียนเชื่อมแม่น้ำค้างก็ค้นหาได้ที่เพจเฟซบุ๊ก แม่น้ำค้างทุเรียนเชื่อม อำเภอขลุง จันทบุรี หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่เบอร์ 098-939-8583 กันได้เล้ย
