พริกกะเหรี่ยง จิ๋วแต่แจ๋ว! ความเผ็ดไม่เป็นรองใคร สรรพคุณทางยา สุดปัง…

พริกกะเหรี่ยง นอกจากความเผ็ด ยังมีฤทธิ์ต้านการก่อตัวของเซลล์มะเร็งได้ด้วยนะ

พริกกะเหรี่ยง เป็นพริกขี้หนูพันธุ์พื้นเมืองชนิดหนึ่ง ที่มีการปลูกกันมาตามแนวชายแดนไทย – พม่า และเมื่อชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงบางกลุ่มได้นำพริกขี้หนูพันธุ์พื้นเมืองดังกล่าว ออกมาจำหน่ายในเมือง ด้วยรสชาติที่เผ็ดร้อน ประชาชนทั่วไปจึงเรียกกันว่า พริกกะเหรี่ยง ลักษณะทั่วไปของ พริกกะเหรี่ยง คือ เมล็ดมีปลายแหลม ก้นโต สีส้มจัดไม่แดงคล้ำ ลักษณะเด่น คือ มีความเผ็ดมาก และมีความหอม โดยการปลูก จะปลูกแบบพืชไร่ โดยปลูกผสมกับพืชอื่น ๆ เช่น ฟัก แตงกวา ข้าว ต้นพริกกะเหรี่ยงจะทนต่อสภาพแวดล้อม และสภาวะอากาศปลูกได้ทุกฤดูกาล

ลักษณะเด่นของพริกกะเหรี่ยงนั้น จะมีลำต้นที่ใหญ่ แตกแขนงได้ดี ทนทานต่อสภาพแวดล้อม และโรคแมลงอย่างมาก ทั้งนี้ โรงงานทำซอสพริกนิยมนำพริกกะเหรี่ยงไปปั่นผสมกับพริกหนุ่ม เพื่อความเผ็ดและหอม เพราะว่า พริกกะเหรี่ยง มีความหอมและความเผ็ดเป็นเอกลักษณ์ประจำพันธุ์

ซึ่ง สรรพคุณทางยา ของ พริกกะเหรี่ยง มี ดังนี้

1. พริกกะเหรี่ยงมีรสเผ็ดร้อนจึงช่วยขับเหงื่อ และอาจช่วยลดน้ำหนักได้เล็กน้อย

2. พริกกะเหรี่ยง มีสารแคปไซวิน หรือน้ำมันหอมระเหย ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด

3. แก้พิษตะขาบและแมลงป่องกัด ใช้พริกแห้งตำผงละลายน้ำมะนาว และทาแผล

4. พริกกะเหรี่ยง ยังมีวิตามินซี ซึ่งทำหน้าที่เป็นแอนติออกซิแดนท์ ออกฤทธิ์ต้านการก่อตัวของเซลล์มะเร็งอีกด้วย

5. ในพริกกะเหรี่ยง จะมีน้ำหอมระเหยมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย มีผลต่อระดับไขมันในเลือด มีผลต่อการจับตัวของเกล็ดเลือด มีผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต มีผลต่อการละลาย ลิ่มเลือด มีผลต่อการขยายตัวของหลอดเลือด และมีผลตอการเปลี่ยนแปลงน้าตาลในเลือด

6. พริกกะเหรี่ยง ยังช่วยแก้เจ็บคอเสียงแหบอีกด้วย โดยการใช้ พริกป่น 1 หยิบมือ เติมน้ำเดือด 1 แก้ว ทิ้งไว้พออุ่น และใช้น้ำกลั้วคอ ช่วยละลายเสมหะ

เห็นไหมคะว่า นอกจากความเผ็ดร้อนที่อยู่ในพริกกะเหรี่ยงแล้ว พริก ยังแฝงไปด้วย สรรพคุณ ที่น่าทึ่งมากๆอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ก็ควรกินในปริมาณที่เหมาะกับร่างกายคนเราด้วยนะคะ