เลี้ยงปูอลาสก้าในไทย ยิ่งโตราคายิ่งพุ่ง ออเดอร์เข้าทุกอาทิตย์

เลี้ยงปูอลาสก้าในไทยไม่น่าเชื่อว่าจะสร้างยอดขายได้ขนาดนี้

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจะมีคนนำเข้าปูอลาสก้ามาเลี้ยงในไทยและยังสามารถสร้างยอดแบบปัง ๆ ได้ด้วย วันนี้จันลั่นทุ่งลงพื้นที่พูดคุยกับคุณ ธิติพงษ์ สายแก้วเทศ หรือ พี่ต้น เจ้าของ Alaschan King Crab Pattaya ขาย-ส่ง ปูอลาสก้า ล็อบสเตอร์ ฟรี ทั่วประเทศ เป็นชาวจังหวัดชลบุรีได้เริ่มนำเข้าปูอลาสก้ามาเลี้ยงและจำหน่ายในไทย ซึ่งพี่ต้นได้ให้ข้อมูลว่า

การนำเข้าปูอลาสก้ามาเลี้ยงในไทย มันมีมาสักพักใหญ่แล้วตนเองก็ได้ทดลองเลี้ยงมาหลายรุ่นกว่าจะมาประสบความสำเร็จถึงทุกวันนี้ ซึ่งการเลี้ยงปูอลาสก้าที่ผมทำจะเป็นปูที่นำเข้ามาจากต่างประเทศซึ่งก็จะมีหลายประเทศที่จะมีการส่งออกปูอลาสก้า ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับฤดูกาลของแต่ละประเทศ

ซึ่งในการเลี้ยงเอาจริง ๆ ผฒก็ใช่เวลาอยู่นานพอสมควรลองผิดลองถูกมาหลาย ต้องบอกก่อนเลยว่าการเลี้ยงปูอลาสก้านั้นต้องใช้ต้นทุนที่สูงพอสมควร แต่ก็มาพร้อมกับราคาตัวปูที่สูง ราคาขายที่สูง ปูอลาสก้าเป็นสัตว์ที่อยู่ในน้ำเย็น เราต้องจำลองให้สถานที่เลี้ยงของเรามีอุณหภูมิใกล้เคียงกับที่เขามา ถ้าความเย็นไม่ได้หรือความเค็มของน้ำไม่พอผมบอกได้เลยว่าปูตายแน่ ๆ การเลี้ยงปูอลาสก้าต้องมีอุปกรณ์เลี้ยงเฉพาะเช่น ตู้ ระบบน้ำ ระบบทำความเย็น ถ้าเรามีอุปกรณ์ที่ดีปูก็จะสามารถอยู่ที่ยาว ๆ บางตัวผมเคยเลี้ยงถึง 8 เดือน

ปูอลาสก้าเป็นปูที่มีราคาสูงและมีลักษณะที่ใหญ่ บางตัวอาจมีน้ำหนักถึง 5 กิโลกรัม ซึ่งราคาปูอลาสก้าก็จะมีราคาตั้งกิโลกรัมละ 3,000 -3,500 บาท ซึ่งราคาก็จะขึ้นอยู่ตามฤดูกาลด้วย ซึ่งปัจจุบันยอดสั่งซื้อในไทยถือว่าดีมาก ปัจจุบันยอดขายต่อเดือนก็ประมาณ 30-40 ตัว ซึ่งสำหรับใครที่สนใจก็สามารถติดต่อได้ที่ Alaschan King Crab Pattaya ขาย-ส่ง ปูอลาสก้า ล็อบสเตอร์ ฟรี ทั่วประเทศ