ทำเอาหลายคน ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อ โน้ตจูเนียร์ วรวิทย์ ผ่องอินทรีย์ ลูกชายคนโตของตลก โน้ต เชิญยิ้ม ได้ออกมาโพสต์ระบายยาวเหยียดผ่านเฟซบุ๊กว่า
“บันทึกไว้วันนี้ 16 มิ.ย. 68 เรา 3 คนพ่อแม่ลูก กอดคอร้องไห้กันมาทั้งคืนแล้ว ในคืนที่ผ่านมา แต่ชีวิตต้องเดินต่อไป อยากได้อะไรก็เอาไป จะเอาคืน หรือจะเรียกอะไรก็ได้ เรา 3 คนพ่อแม่ลูก จะเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ แม้ตอนนี้จะเสียหลักบ้าง แต่เราเชื่อว่าเราจะผ่านมันไปได้ แค่ขอเวลาตั้งหลักจัดการทุกอย่างไม่นาน อย่างน้อยๆ ก็หวังว่าจะมีความเป็นมนุษย์กับเด็กอายุ 9 ขวบ”
“เราจะสร้างบ้านใหม่ ที่จะไม่มีใครมาทำร้ายเราได้อีก เราจะสร้างบ้านที่ไม่มีใครสามารถไล่เราเหมือนหมูเหมือนหมาได้ เราจะหาพื้นที่ของเราที่ไม่ต้องถูกทวงคืนขับไล่ทุกครั้งที่มีปัญหากัน”
“เรื่องที่รู้สึกผิดเรื่องเดียวคือ การที่เด็ก 9 ขวบต้องมารับรู้สถานการณ์ระXแบบนี้ เพิ่งเคยได้ยินลูกสาวพูดคำว่าเกลียดครั้งแรก เหมือนกัน แต่ก็ไม่น่าแปลกใจอะไร กับสิ่งที่ถูกกระทำ”
“ปล. สำหรับญาติหรือคนรู้จักท่านไหนที่รับรู้เรื่องราวข้างเดียว แล้วอยากเชื่อ อยากสนใจ…จงเชื่อ ตามที่คุณจะเป็น จะคิด เพราะผมเชื่อว่า ถ้าคุณรู้จักผมจริงๆ คุณจะรู้ว่าอันไหนจริง ไม่จริง ด้วยตัวคุณเอง ใครไม่เข้าใจก็ช่าง อยากเชื่ออะไรก็เชื่อ นี่คิดว่าพิสูจน์ความเป็นตัวเองมากพอที่จะไม่สนใจแล้วว่าคนชื่อไอ้โน้ต เป็นคนยังไง และผมอดทนมานานพอแล้ว”
“สุดท้ายนี้ ผมเลือกจะเป็นผู้ชายที่จะปกป้องครอบครัวของผม ไม่ให้ใครมาทำร้ายได้อีกครับ แม้ในวันที่จะถูกทวงคืนทุกอย่างจนไม่เหลืออะไรก็ตาม ชีวิตเริ่มต้นใหม่ในอายุ 44, 35 และ 9 ขวบ เราจะต้องรักษารอยยิ้มนี้กันไว้ให้ได้”
ไม่นานโพสต์ดังกล่าวก็ได้ถูกลบออกไป และโน้ตจูเนียร์ ก็ได้โพสต์ข้อความอีกครั้งว่า
“ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาตลอดในช่วงที่ผ่านมานะครับ….ชีวิตยังคงต้องเดินหน้าต่อไปตามที่ควรจะเป็นครับส่วนอารมณ์ด้านลบในใจ จนถึงวินาทีนี้ มันไม่มีอีกแล้วครับ ไม่ได้เป็นคำประชดใดๆ ทั้งสิ้น รู้สึกแบบนี้จริงๆ มันสงบมากขึ้น ไม่รูัจะโกรธไปทำไม หลายอย่างอาจไม่เหมือนเดิม และอาจไม่มีทางเป็นแบบเดิมได้อีก”
“แต่ในอนาคตไม่มีใครรู้หรอกเนอะตอนนี้พายุได้สงบลงแล้ว เชื่อว่าทุกคนในเหตุการณ์ ก็มีส่วนที่เสียใจเหมือนๆ กัน ไม่มากก็น้อยตอนนี้ อารมณ์ผมเหมือนเรือที่เตรียมตัวออกจากฝั่ง มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะ เริ่มรู้สึกเหมือนกับกำลังจะได้ออกผจญภัยเหมือนกัน และ จะออกผจญภัยแน่ๆ เพราะมีข้อสรุปกันแล้วทุกฝ่าย ส่วนตัวผมเชื่อว่ามันน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดตอนนี้เลยอารมณ์แบบ “ฉันจะเป็นราชาแห่งโจรสลัดให้ได้เลย”555555กำลังเตรียมตัว เมื่อเรือพร้อมแล้วเราจะออกเดินทางเพื่อพิสูจน์เส้นทางตัวเองครับกัปตันโน้ต ต้นหนสไมล์ และ นังเอิทปล.ใครที่บอกจะช่วยอะไรไว้อ่ะ ไว้มีอะไรเดี๋ยวทักไปนะ 5555”
ต่อมาหลังจากเป็นข่าว โน๊ตจูเนียร์ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวอีก ด้วยการโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
“โอยยย ไปใหญ่แล้วฮะ เรื่องมันจบไปแล้ว เคลียร์กันแล้ว พี่ๆนักข่าวค้าบ อย่าให้อะไรๆ มันพังไปมากกว่านี้เลยครับพี่
ผมเคลียร์ในบ้านกันจบไปแล้ว มาตีข่าวอะไรกันตอนที่ไฟมันมอดอ่ะค้าบ
เมตตาผมกันหน่อยนะครับพี่ๆ ถ้าในเมื่อเอาที่ผมโพสต์ไปเล่นเป็นข่าวได้ ผมว่าโพสต์นี้ก็น่าจะพอช่วยพี่ๆได้นะครับ
“ผมผิดเอง ในทุกๆเรื่อง ไม่ว่าอะไรก็ตาม แต่ได้โปรดครับพี่ ให้มันจบเถอะ อย่าเสนอข่าวเลย ผมไหว้แล้วครับพี่ แบบนี้ยิ่งแย่ลง ขอร้องครับ”
ด้วยความเคารพพี่ๆนักข่าวทุกๆท่านครับ
กระทั่งล่าสุด โน้ตจูเนียร์ ได้เผยภาพแชท เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า ครอบครัวยังรักกันดีและไม่ได้มีอะไรรุนแรงอย่างที่หลายคนคิด พร้อมระบุข้อความว่า
“และนี่คือหลักฐานว่ามันไม่มีอะไรเลย แชตนี้คุยกันตอนเย็นเมื่อวาน 17 มิย 68 ครับ
สถานการณ์มันไม่มีอะไรรุนแรงแม้แต่นิดเดียว เพราะเคลียร์กันแล้ว มีแค่ปู่คิดถึงหลาน เพราะไม่ได้เจอ เพราะปกติเจอกันเกือบทุกวัน เพราะบ้านเรา อยู่ห่างกัน1กิโล
เหตุที่ทะเลาะ เย็นอาทิตย์15
เช้า16 มีโพสต์ต้นเหตุ
17 ก็ตามนี้ เคลียร์กันจบครับ
ตอนนี้ผมก็น่าจะได้บ้านใหม่ที่ตัวเองแบกไหว ในราคาที่ไม่เกินตัว เท่านั้นเอง บ้านที่อยู่ตอนนี้ ใหญ่ไปหน่อย ทั้งพื้นที่ สำหรับ3คนอยู่ และ ราคา มันไม่มีอะไรแล้ว
ส่วนโพสต์ก่อนที่ถูกเอาไปทำข่าว ผมเลวเองครับ ทำให้เป็นเรื่องใหญ่เอง พอทุกอย่างสงบ มันก็จบ แม่ลูกทะเลาะกันมาทั้งชีวิต มันรู้จังหวะกันดีครับ ว่าควรคุยกันตอนไหน แต่พอมีข่าวแบบนีั มันจะไม่ได้ดีกันเอานะ
อย่าเลยน่า ถือว่าเห็นแก่เด็กอายุ9ขวบ ที่จะมีผลกระทบเวลาไปเรียน จากเรื่องที่พ่อตัวเองก่อเถอะ
และเรื่องที่โพสต์ไป เอาจริงๆ ส่วนตัวไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนสาธารณะเลย เลยไม่คิดจะเป็นข่าว แหม ผมทำงานเบื้องหลังมา20ปี มีหนังออกมาตลอด พวกพี่ๆนักข่าวยังไม่รู้เลยว่าผมเป็นโปรดิว เป็นเจ้าของIP เป็นผู้กำกับ งานไหนบ้าง ใครจะไปคิดล่ะค้าบ ว่ามันลุกลามขนาดนี้ พอเป็นเรื่องครอบครัว
ขอโทษจากใจ ถึงผุ้ได้รับผลกระทบทุกคนเลยครับ ผมผิดเองนะ จบกันเถอะ”
เอาเป็นว่าเรื่องทุกอย่างจบลงด้วยดีไม่ได้มีความขัดแย้งกัน รักกันเหมือนเดิมนั่นเองค่ะ
