ตรุษจีน 2567 นี้ ควรไหว้อะไร และไหว้กี่โมงชีวิตจะดีตลอดปี

กำลังจะเข้าสู่บรรยากาศของเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นวันฉลองปีใหม่ของชาวไทยเชื้อสายจีน ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ได้สืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นต้องมีการไหว้ ขอบคุณบรรพบุรุษ เทพเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งพีธีไหว้นั้นเป็นสิ่งที่ชาวจีนให้ความสำคัญอย่างมาก อีกทั้งมีขั้นตอนที่ค่อนข้างละเอียด ทั้งการเลือกอาหาร การจัดพิธีไหว้ ช่วงเวลา วันนี้เราจะพาไปดูกันว่าต้องเตรียมของไหว้อะไร และต้องไหว้ช่วงเวลาไหนบ้าง ไปดูกันเลย

รู้จักชุดไหว้ 3 อย่าง และ 5 อย่าง

ไหว้ 3 อย่าง (ซาแซ) ประกอบด้วย หมูส่วนสะโพกติดหนัง (บะแซหรือบะแซะ) เป็ดพร้อมเครื่องใน และไก่พร้อมเครื่องใน

ไหว้ 5 อย่าง (โหงวแซ) ประกอบด้วย หมูส่วนสะโพกติดหนัง (บะแซหรือบะแซะ) เป็ดพร้อมเครื่องใน ไก่พร้อมเครื่องใน ปลาทั้งตัวหรืออาหารทะเล และตับ

ผลไม้ 3 – 5 อย่าง “ซาก้วย และโหงวก้วย”
นอกจากการไหว้ด้วยเนื้อสัตว์แล้ว ก็จะมีการไหว้ด้วยผลไม้ 3 – 5 อย่างที่เรียกกันว่า “ซาก้วย และโหงวก้วย” ซึ่งจะประกอบไปด้วย

  1. ส้ม หมายถึง โชคลาภ วาสนา
  2. กล้วย หมายถึง การดึงโชคลาภเข้าบ้าน ให้มีลูกมีหลานเต็มบ้าน
  3. สาลี่ หมายถึง เงินทองไหลมาเทมา

4.แอปเปิ้ล (แดง) หมายถึง โชคดีมีสุข สุขภาพแข็งแรง

5.องุ่น หมายถึง ความงอกงาม

6.สับปะรด คนจีนแต้จิ๋วเรียกว่า “อั้งไล้” หมายถึง “เรียกสีแดงมา” ซึ่งสีแดงนั้นคนจีนถือว่าเป็นสีของโชค ความเป็นมงคล ให้เรียกโชคลาภเข้ามา คนไทยเชื้อสายจีนในภาคใต้นิยมไหว้สับปะรด

ขนม 3 – 5 อย่าง “ซาเปี้ย-โหงวเปี้ย”

ในส่วนของขนม 3-5 อย่าง ที่นิยมนำมาไหว้นั้น หรือที่เรียกว่า ซาเปี้ย (สามอย่าง) และโหงวเปี้ย (ห้าอย่าง) ก็จะมีขนมหลักที่ขาดไม่ได้ 2 อย่างคือ “ขนมเข่ง” หมายถึงให้มีเพื่อนมาก “ขนมเทียน” หมายถึงให้สว่างรุ่งเรือง

ส่วนขนมอื่น ๆ ได้แก่ ฮวกก้วย (ขนมถ้วยฟู) หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง ความเฟื่องฟู ขนมอันจับ ซาลาเปา หมายถึง “เป่าไช้” แปลว่า “ห่อโชค” ซึ่งจะเน้นให้มีสีชมพู หรือมีแต้มจุดสีแดง ขนมสาลี่ หมายถึงให้ รุ่งเรือง เฟื่องฟู ขนมไข่ หมายถึง เจริญเติบโต

วิธีและช่วงเวลาในการ ไหว้ตรุษจีน
ในวันไหว้ที่ 9 กุมภาพันธ์นั้น จะแบ่งไหว้ออกเป็น 4 ช่วงเวลา

ไหว้เจ้าที่ 06.00 – 07.00 น.

ใช้ธุป 3 ดอก เป็นการไหว้ขอบคุณเทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่คอยช่วยปกปักรักษา คุ้มครองบ้านให้ปลอดภัย มีแต่ความสงบสุขร่มเย็น โดยจะไหว้ด้วยชุดซาแซ หรือโหงวแซ ขนมหวาน ผลไม้ น้ำชาหรือเหล้าจำนวน 5 ที่ และกระดาษเงินกระดาษทอง

ไหว้บรรพบุรุษ 10.00 – 11.00 น. (ไม่เกินเที่ยง)

ใช้ธูป 3 ดอก เป็นการไหว้เพื่อแสดงความกตัญญูและระลึกถึงบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว โดยใช้ของไหว้เป็นชุดซาแซหรือโหงวแซ กับข้าวเมนูโปรดของบรรพบุรุษ 5 อย่าง ข้าวสวยตามจำนวนบรรพบุรุษ ของหวาน ผลไม้ กระดาษเงินกระดาษทอง น้ำชาหรือเหล้าจำนวน 5 ที่ เสื้อผ้าของบรรพบุรุษ ทองแท่งสำเร็จรูป แบงค์กงเต็ก ค้อซี/ก๊อซี

ไหว้สัมภเวสี 14.00 – 16.00 น.

ใช้ธูป 1 ดอก เป็นการไหว้สัมภเวสีหรือผีไม่มีญาติ โดยให้เตรียมข้าวสวย ขนมหวาน น้ำเปล่า เหล้า กระดาษเงินกระดาษทอง ตั้งบนเสื้อนอกบ้านและหันออกนอกตัวบ้าน เมื่อไหวเสร็จจะสาดเกลือเม็ดและข้าวสาร จากนั้นจุดประทัดเพื่อเป็นการปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป

ไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย 23.00 – 05.00 น. ของวันที่ 10 กุมภาพันธ์

ใช้ธูป 5 ดอก เป็นการไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ เสริมความสิริมงคลให้บ้านและครอบครัว โดยถวายน้ำชา 5 ถ้วย ขนมอี๊ (สาคูสีแดง) หรือข้าวสวย 5 ถ้วย ผลไม้มงคล 5 อย่าง เจไฉ่หรือของเจ 5 อย่าง ขนมจับอัน ชุดกระดาษไหว้ไฉ่ซิงเอี๊ย พร้อมรูปหรือรูปปั้นเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยสำหรับกราบไหว้

8 วิธีจัดโต๊ะวางของไหว้ สำหรับ ไหว้ตรุษจีน

  1. จัดเตรียมโต๊ะและเก้าอี้สำหรับวางของไหว้และใช้อำนวยความสะดวกในพิธี เราแนะนำเก้าอี้พลาสติกจากวัฒนาลัคกี้แวร์ และจะให้ดีก็ต้องเลือกสีแดงที่เป็นสีมงคลประจำวันตรุษจีน แถมแข็งแรงทนทานอีกด้วย
  2. จัดวางโต๊ะไหว้ไว้ด้านหน้าเทวรูป หรือแท่นบูชา
  3. วางกระถางธูปด้านในสุดของโต๊ะ และวางข้างหน้าแท่นบูชาหรือเทวรูป พร้อมเชิงเทียนและแจกันดอกไม้ขนาบซ้ายและขวาของกระถางธูป
  4. ถัดออกมาจากกระถางธูป วางถ้วยข้าวพูน ๆ จำนวน 5 หรือ 3 ถ้วย
  5. ถัดออกมาวางถ้วยน้ำชา หรือถ้วยเหล้า 5 ถ้วย
  6. วางถ้วยน้ำดื่ม 5 ถ้วย ถัดออกมาจากถ้วยน้ำชา
  7. ถัดจากถ้วยน้ำดื่มให้วางของคาวซาแซหรือโหวงแซ กับข้าว ของหวาน ผลไม้ จัดเรียงให้สวยงาม
  8. สุดท้ายวางกระดาษเงินกระดาษทอง