กำลังจะเข้าสู่บรรยากาศของเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นวันฉลองปีใหม่ของชาวไทยเชื้อสายจีน ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ได้สืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นต้องมีการไหว้ ขอบคุณบรรพบุรุษ เทพเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งพีธีไหว้นั้นเป็นสิ่งที่ชาวจีนให้ความสำคัญอย่างมาก อีกทั้งมีขั้นตอนที่ค่อนข้างละเอียด ทั้งการเลือกอาหาร การจัดพิธีไหว้ ช่วงเวลา วันนี้เราจะพาไปดูกันว่าต้องเตรียมของไหว้อะไร และต้องไหว้ช่วงเวลาไหนบ้าง ไปดูกันเลย
รู้จักชุดไหว้ 3 อย่าง และ 5 อย่าง
ไหว้ 3 อย่าง (ซาแซ) ประกอบด้วย หมูส่วนสะโพกติดหนัง (บะแซหรือบะแซะ) เป็ดพร้อมเครื่องใน และไก่พร้อมเครื่องใน
ไหว้ 5 อย่าง (โหงวแซ) ประกอบด้วย หมูส่วนสะโพกติดหนัง (บะแซหรือบะแซะ) เป็ดพร้อมเครื่องใน ไก่พร้อมเครื่องใน ปลาทั้งตัวหรืออาหารทะเล และตับ
ผลไม้ 3 – 5 อย่าง “ซาก้วย และโหงวก้วย”
นอกจากการไหว้ด้วยเนื้อสัตว์แล้ว ก็จะมีการไหว้ด้วยผลไม้ 3 – 5 อย่างที่เรียกกันว่า “ซาก้วย และโหงวก้วย” ซึ่งจะประกอบไปด้วย
- ส้ม หมายถึง โชคลาภ วาสนา
- กล้วย หมายถึง การดึงโชคลาภเข้าบ้าน ให้มีลูกมีหลานเต็มบ้าน
- สาลี่ หมายถึง เงินทองไหลมาเทมา
4.แอปเปิ้ล (แดง) หมายถึง โชคดีมีสุข สุขภาพแข็งแรง
5.องุ่น หมายถึง ความงอกงาม
6.สับปะรด คนจีนแต้จิ๋วเรียกว่า “อั้งไล้” หมายถึง “เรียกสีแดงมา” ซึ่งสีแดงนั้นคนจีนถือว่าเป็นสีของโชค ความเป็นมงคล ให้เรียกโชคลาภเข้ามา คนไทยเชื้อสายจีนในภาคใต้นิยมไหว้สับปะรด
ขนม 3 – 5 อย่าง “ซาเปี้ย-โหงวเปี้ย”
ในส่วนของขนม 3-5 อย่าง ที่นิยมนำมาไหว้นั้น หรือที่เรียกว่า ซาเปี้ย (สามอย่าง) และโหงวเปี้ย (ห้าอย่าง) ก็จะมีขนมหลักที่ขาดไม่ได้ 2 อย่างคือ “ขนมเข่ง” หมายถึงให้มีเพื่อนมาก “ขนมเทียน” หมายถึงให้สว่างรุ่งเรือง
ส่วนขนมอื่น ๆ ได้แก่ ฮวกก้วย (ขนมถ้วยฟู) หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง ความเฟื่องฟู ขนมอันจับ ซาลาเปา หมายถึง “เป่าไช้” แปลว่า “ห่อโชค” ซึ่งจะเน้นให้มีสีชมพู หรือมีแต้มจุดสีแดง ขนมสาลี่ หมายถึงให้ รุ่งเรือง เฟื่องฟู ขนมไข่ หมายถึง เจริญเติบโต
วิธีและช่วงเวลาในการ ไหว้ตรุษจีน
ในวันไหว้ที่ 9 กุมภาพันธ์นั้น จะแบ่งไหว้ออกเป็น 4 ช่วงเวลา
ไหว้เจ้าที่ 06.00 – 07.00 น.
ใช้ธุป 3 ดอก เป็นการไหว้ขอบคุณเทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่คอยช่วยปกปักรักษา คุ้มครองบ้านให้ปลอดภัย มีแต่ความสงบสุขร่มเย็น โดยจะไหว้ด้วยชุดซาแซ หรือโหงวแซ ขนมหวาน ผลไม้ น้ำชาหรือเหล้าจำนวน 5 ที่ และกระดาษเงินกระดาษทอง
ไหว้บรรพบุรุษ 10.00 – 11.00 น. (ไม่เกินเที่ยง)
ใช้ธูป 3 ดอก เป็นการไหว้เพื่อแสดงความกตัญญูและระลึกถึงบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว โดยใช้ของไหว้เป็นชุดซาแซหรือโหงวแซ กับข้าวเมนูโปรดของบรรพบุรุษ 5 อย่าง ข้าวสวยตามจำนวนบรรพบุรุษ ของหวาน ผลไม้ กระดาษเงินกระดาษทอง น้ำชาหรือเหล้าจำนวน 5 ที่ เสื้อผ้าของบรรพบุรุษ ทองแท่งสำเร็จรูป แบงค์กงเต็ก ค้อซี/ก๊อซี
ไหว้สัมภเวสี 14.00 – 16.00 น.
ใช้ธูป 1 ดอก เป็นการไหว้สัมภเวสีหรือผีไม่มีญาติ โดยให้เตรียมข้าวสวย ขนมหวาน น้ำเปล่า เหล้า กระดาษเงินกระดาษทอง ตั้งบนเสื้อนอกบ้านและหันออกนอกตัวบ้าน เมื่อไหวเสร็จจะสาดเกลือเม็ดและข้าวสาร จากนั้นจุดประทัดเพื่อเป็นการปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป
ไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย 23.00 – 05.00 น. ของวันที่ 10 กุมภาพันธ์
ใช้ธูป 5 ดอก เป็นการไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ เสริมความสิริมงคลให้บ้านและครอบครัว โดยถวายน้ำชา 5 ถ้วย ขนมอี๊ (สาคูสีแดง) หรือข้าวสวย 5 ถ้วย ผลไม้มงคล 5 อย่าง เจไฉ่หรือของเจ 5 อย่าง ขนมจับอัน ชุดกระดาษไหว้ไฉ่ซิงเอี๊ย พร้อมรูปหรือรูปปั้นเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยสำหรับกราบไหว้
8 วิธีจัดโต๊ะวางของไหว้ สำหรับ ไหว้ตรุษจีน
- จัดเตรียมโต๊ะและเก้าอี้สำหรับวางของไหว้และใช้อำนวยความสะดวกในพิธี เราแนะนำเก้าอี้พลาสติกจากวัฒนาลัคกี้แวร์ และจะให้ดีก็ต้องเลือกสีแดงที่เป็นสีมงคลประจำวันตรุษจีน แถมแข็งแรงทนทานอีกด้วย
- จัดวางโต๊ะไหว้ไว้ด้านหน้าเทวรูป หรือแท่นบูชา
- วางกระถางธูปด้านในสุดของโต๊ะ และวางข้างหน้าแท่นบูชาหรือเทวรูป พร้อมเชิงเทียนและแจกันดอกไม้ขนาบซ้ายและขวาของกระถางธูป
- ถัดออกมาจากกระถางธูป วางถ้วยข้าวพูน ๆ จำนวน 5 หรือ 3 ถ้วย
- ถัดออกมาวางถ้วยน้ำชา หรือถ้วยเหล้า 5 ถ้วย
- วางถ้วยน้ำดื่ม 5 ถ้วย ถัดออกมาจากถ้วยน้ำชา
- ถัดจากถ้วยน้ำดื่มให้วางของคาวซาแซหรือโหวงแซ กับข้าว ของหวาน ผลไม้ จัดเรียงให้สวยงาม
- สุดท้ายวางกระดาษเงินกระดาษทอง