จุดเริ่มต้นคู่รักเน็ตไอดอล พี่ตี๋น้องบี๋ กำเนิดความฮาผมหน้าม้าพาดัง!

คู่รักเน็ตไอดอลสายฮา พี่ตี๋-น้องบี๋ จุดกำเนิดผมหน้าม้าพาดัง

อีจันอยากเจอวันนี้จะพาทุกคนมาพับกบ เห้ย! พบกับ เห้ย! ถูกแล้วววว พี่ตี๋-น้องบี๋ คู่รักเน็ตไอดอลสายฮาที่ไม่ว่าพวกเขาจะย่างก้าวเข้าไปที่ไหนที่นั่นก็จะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ กับนิยามความเป็นตัวเองของพวกเขา “โจ๊ก โก๊ะ หล่อ เท่ ดูดี มีความสามารถ!” “สุดจ๊าบ จ๋องแจ๋ง เด๋อๆ ด๋าๆ พูดไม่รู้เรื่อง!”

กว่าจะมาเป็น พี่ตี๋ น้องบี๋ ในวันนี้ ทั้งคู่รู้จักกันได้ยังไง?

คุณตี๋ บอกว่า คือมันเริ่มต้นมาจกการอกหัก ก็คือ มีสาวสวยมันมาขี้ใส่ใจตี๋ ขี้เป็นก้อนตี๋ไม่ว่าแต่มันเป็นน้ำ!! มันเละมากที่ใจ เราอกหักยับเยินมาก เราหอบของจากกรุงเทพกลับบ้านที่อุบลฯ แล้วก็ไปกินเหล้าร้านนั่งชิวกับเพื่อน เพื่อนก็บอกว่า ตี๋ ขอให้น้องคนหนึ่งที่รู้จักมาด้วยได้ไหม น้องคนนี้มันดีมันไม่อะไรหรอก มันอกหักเหมือนกันเลย เราก็บอกจริงไหม ถ้าอกหักงั้นเรียกมา เราจะคุยเรื่องนี้เราจะพูด เขาก็เรียกมา

เพราะความอกหัก พัดพาให้มาเจอกัน?

คุณบี๋ บอกว่า เราก็ไป ก็เจอพี่ตี๋ พอเจอพี่ตี๋ ก็เห้ย พี่คนนี้ที่เคยเรียนมัธยมด้วยกันนี่ เรียนโรงเรียนเดียวกันด้วย

เคยเรียนที่อุบลฯ เหมือนกันหรอ ?

คุณตี๋ บอกว่า ใช่ เรียนที่อุบลฯ เหมือนกัน พึ่งมารู้วันนั้นด้วยว่าเราเรียนจบมัธยมโรงเรียนเดียวกัน แต่พี่ตี๋ไม่เคยเห็นน้องเขาเลยนะ

คุณบี๋ บอกว่า แต่หนูเคยเห็นพี่เขาตลอด เพราะในโรงเรียนพี่เขาจะฮอตมาก เป็นอารมณ์แบบ แก๊งทอม แล้วก็จะเดินแบบเท่ๆ แบบเป็นคนดังในโรงเรียน แต่เราก็จะเป็นเด็กธรรมดา ตัวเล็กๆ รุ่นพี่คนนี้ที่ชอบขับมอเตอร์ไซด์ในโรงเรียน เสียงดังๆ ก็เลยแบบไม่ได้อยากทำความรู้จักมาก่อน

คุณตี๋ พูดขึ้นมา อย่าไปพูดแบบนั้น!! (ขำ)

คุณบี๋ บอกต่ออีกว่า แล้ววันนั้นก็ไปเจอกันที่ร้านเหล้าร้านนั้นก็เป็นเพื่อนของพี่ที่เรารู้จัก ก็เลยเริ่มได้คุยกันตั้งแต่วันนั้น

คุณตี๋ บอกว่า พอตอนไปต่อผับนี่แหละมันถึงได้สานต่อกัน เพราะว่ามันเมาไง แล้วมันก็แบบ มันไปกันใหญ่

มันตามน้ำกันไปหรอ ?

คุณตี๋ บอกว่า ใช่ ไอ้นี่ก็แบบพี่ถ่ายสตอรี่ มันก็เนียน มันไปถ่ายกับเพื่อนเรามาก่อนแล้วก็มาถ่ายกับเรา พอมาถ่ายแล้วมันก็ยังไง บอกเราว่าพี่ เดี๋ยวหนูส่งรูปให้ แต่แบตเราหมด หมดจริงๆ แล้วมันก็หายไป หายไปไหนหรอ นู่นหายไปบูทดีเจ ดีเจเขาอยู่กลางซอยนะ มันแบบไปปีน พี่คะๆยืมพาวเวอร์แบงหน่อย เพื่อจะเอามาชาร์จแบตโทรศัพท์เรา ไปเอามาจนได้ แล้วมันก็รอจนแบตตี๋ติด แล้วมันก็ขอไลน์ไป ก็เลยรู้สึกว่าเราไม่เคยเจอแบบนี้เลย คือหน้าไม่ได้มาก แต่ใจถึงมาก

แต่กว่าจะได้คบกัน ตี๋-บี๋ ต้องผ่านบททดสอบหลายอย่าง แม้กระทั่ง “เรื่องเพศ”

คุณตี๋ บอกว่า มันมีเรื่องแปลกอย่างหนึ่งคือ ตี๋เป็นทอมนะ แต่น้องคบผู้ชายมาตลอด การที่น้องจะมาขอไลน์ฉันเธอคิดหรือยัง

คุณบี๋ บอกว่า คิดแล้ว

รู้ไหมว่าตอนนั้นเขาเป็นทอม ?

คุณบี๋ บอกว่า รู้ค่ะ คือส่วนตัวเราชอบเสพการ์ตูน เสพนิยาย เสพซีรีส์อะไรอย่างนี้ มาตั้งแต่เด็ก แล้วเราก็รู้ว่าเพศมันมีหลากหลาย เราก็เลยรู้สึกว่า แค่ชอบคนนี้คนนี้หน้าตาโดนใจ หล่ออะ อยากคุยแค่นั้นเลย ก็เลยขอไลน์ หนูคิดแค่ว่าหนูชอบคนนี้ แค่นั้น

คุณตี๋ บอกว่า ตอนนั้นตี๋ปิดกั้นเลยนะ เพราะตี๋ก็ไม่เชื่อ ไม่เชื่อว่าผู้หญิงที่คบผู้ชายมาตลอดชีวิตอยู่ดีๆแล้วมาเปลี่ยน แล้วยังมาเปลี่ยนหลังอกหักด้วย เราก็คิดว่า โอ๊ยตาย เราแย่กว่าเดิมแน่เลย เรากลัว!

แล้วอะไรทำให้เปิดใจคุยกับเขา แล้วตัดสินใจคบกับเขา?

คุณตี่ บอกว่า เพราะเพื่อนตี๋บอกว่าดี ลองดู พี่ตี๋เชื่อนะว่า คนที่มองเราจะเห็นมากกว่าที่เรามองตัวเอง ตี๋เลยเชื่อว่าเพื่อนต้องหวังดี เพื่อนบอกว่าลองดูคนนี้ดี แล้วเราก็บอกเขามาตลอดว่าพี่ไม่ได้เริ่มต้นจากที่พี่ชอบน้อง จนคบกันมาสักพักหนึ่งแต่ยังไม่ได้เป็นแฟนนะ พี่ก็ยังไม่รู้สึกว่าพี่รักน้อง จนวันที่ พี่ตี๋ขอน้องเป็นแฟนวันนั้นคือรู้สึกแล้วว่ารัก รู้สึกว่าคนนี้ใช่ คนนี้ เช็ดขี้ เช็ดเยี่ยวพ่อแม่เราแน่นอนดูแลเราแน่นอน ไม่ทิ้งเราไปไหนไม่ว่าเราจะเป็ยยังไงแน่นอน มันรู้สึกแบบนั้น เขาทำให้เราสะท้อนอะไรหลายๆอย่างว่าที่ผ่านมา ที่เราต้องการคนแบบนั้นเพราะอะไร เพราะแค่อยากเอาไปอวดเพื่อนไง

เพราะความดีบี๋ มัดใจตี๋ จนตอนนี้คบกันมา 5 ปีแล้ว ตอนนี้ ตี๋ – บี๋ มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นคู่รักสายฮา ที่ไม่ว่าใครเจอก็ต้องมีเสียงหัวเราะ คนติดตามเพจ 1.7 ล้านคน จุดเริ่มต้น เกิดจากอะไร ?

คุณตี๋ บอกว่า เริ่มจากไปกินเหล้าเมากลับมาเราก็ตัดผมหน้าม้าน้องบี๋ ตี๋ ลองให้คนในอินสตราแกรมโหวต เราก็ดูว่าคนจะโหวตอะไร ตี๋รู้อยู่แล้ว เพราะว่าอะไร ตี๋ตั้งใจให้คนโหวตอันนั้น ตี๋ก็ละเลงเลยวันนั้น มันก็เลยเกิดเป็นไวรัลขึ้นมาคนแชร์เยอะมาก คลิปแรกคิดกันอยู่ว่า น้องบี๋เราจะไปถ่ายอะไรกันดี เราคิดว่าเราจะไปถ่ายอะไรกันดีแบบพาไปบ้านนาเราดีไหม ระหว่างนั้น มันก็มีเหตุการณ์ที่น้องบี๋ปวดขี้บนรถ แล้วก็เจอไฟแดงสุดท้ายที่เป็น 100 วินาที นั่นเป็นคลิปแรก คลิปแรกของเพจ คนดู 20ล้าน เราจะเป็นลม

คลิปนี้เป็นไวรัล มีคนดูถึง 20 ล้าน ตี๋ – บี๋ ดังชั่วข้ามคืน!! คิดไหมว่าวันหนึ่งตัวเองจะมีชื่อเสียงขึ้นมา ?

คุณตี๋ บอกว่า ไม่คิด เราคิดว่าภาพลักษณ์เรามันไม่ได้ดีที่จะมายืนในจุดนี้ แต่ก่อนนะเรามองว่าคนที่จะอยู่ในจุดนี้ เขาต้องสวย หล่อ ความสามารถแน่น การศึกษาดี หรือที่บ้านต้องมีฐานะมากๆ พอที่จะซัพพอร์ต ในการดูแลตัวเอง ทำคอนเทนต์อะไรอย่างนี้ ตี๋ก็คิดว่าเราไม่น่าไปจุดนั้น เรามาจากการไม่ได้ตั้งใจ มันมาจากการฟลุกล้วนๆ จากความกลั่นแกล้งของเราเอง เราไม่ได้คิดมาก่อนว่ามันจะมาได้อย่างนี้

ภายนอกอาจดูสนุก มีความสุข แต่ใครจะรู้ข้างในเจ็บทุกครั้ง ที่ได้ยินคำถาม “ เป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหน ” เพราะเป็น LGBTQ

คุณตี๋ บอกว่า ตี๋ไม่รู้ว่า ตี๋เป็นแบบนี้ได้ยังไง มันเป็นคำถาม ที่ตั้งแต่เกิดมา คนถามว่า เป็นแบบนี้ได้ยังไง แต่รู้ไหมคนที่เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิด เขาไม่เคยมีคำถามนี้ในหัวเลย คำถามที่ว่าเราเป็นตั้งแต่ตอนไหน นี่ไม่ควรถามใหญ่เลย เพราะเราไม่เคยเป็นใครคนอื่นเลยเราเป็นเรานี่แหละ ถ้าต้องตอบว่าตอนไหน ตั้งแต่ที่ฉันเกิดมา มีลมหายใจ ฉันพูดได้ ฉันรู้สึกเป็น ก็ตั้งแต่นั่นแหละ เราเป็นโรคเหรอ? ที่เราต้องหาย ตี๋ว่าไม่ มันคือตัวฉัน แล้วฉันก็ไม่ต้องรักษาด้วย แล้วฉันก็มีความสุขดีแล้วฉันก็แฮปปี้มาก แล้วฉันก็ประสบความสำเร็จ แล้วฉันก็เก่ง แล้วฉันก็เป็นที่น่าภูมิใจของหมู่บ้าน เรื่องหนึ่งที่ตี๋อยากพูดคือ บางทีเพศ LGBT ทำอะไรก็ผิด ตี๋อยากให้มอง LGBT เป็นเรื่องปกติ ทุกคนเท่าเทียมกัน แล้วก็อยากให้สิ่งที่เขาทำอยู่ สิ่งที่เขาทำผิดพลาด พลาดจากอะไร สำเร็จจากอะไร แต่ไม่ใช่ว่าพลาดเพราะเพศ มันไม่ใช่สิ่งที่เราต้องได้รับ มันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องรับ เลิกเอามายัดเยียดกรอบเรา

คุณตี๋ ฝากทิ้งท้ายเอาไว้ว่า พวกเราทุกคนเป็นเหมือนพวกคุณทุกคน LGBT ในการสมรสมันจะไม่ได้เป็นแค่ ทะเบียบสมรส มันจะได้เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองหลังจากที่เราตาย เราเจ็บ เราสร้างทรัพย์สมบัติอะไรร่วมกันกับแฟนของเรา ซึ่งทุกวันนี้ LGBT หลายๆคนก็ประสบความสำเร็จมากในเรื่องของความรัก และในเรื่องของการงาน ธุรกิจทุกอย่างมันไปพร้อมความรัก ฉันอยากมีชีวิตที่มีการดูแลเหมือนกับหลายๆประเทศ ที่ตี๋พูดไปคือในมุมเรา ที่บางทีคุณอาจจะไม่ได้นึกถึง แต่นี่คือมุมของเราจริงๆ